กาม 2

กาม แปลว่า ความใคร่ ความอยาก ความปรารถนา สิ่งที่น่าใคร่ สิ่งที่น่าปรารถนา เป็นสิ่งที่ทำให้คนติดข้องอยู่ในโลก ไม่สามารถหลุดพ้นไปจากทุกข์ได้ มี 2 อย่าง คือ

  1. กิเลสกาม กิเลสเป็นเหตุใคร่
  2. วัตถุกาม วัตถุอันน่าใคร่

กิเลสกาม

กิเลสกาม แปลว่า กิเลสเป็นเหตุใคร่ หมายถึง กิเลสที่ทำให้เกิดความใคร่หรือความอยาก เช่น ตัณหา ที่ทำให้เกิดความอยากมี อยากเป็น อยากหลุดพ้นจากสภาวะบางอย่าง โลภะ ที่ทำให้เกิดความอยากได้ รติ ที่ทำให้เกิดความยินดี ราคะ ที่ทำให้เกิดความกำหนัด เป็นต้น

กิเลสเหล่านี้ เมื่อเกิดมีในสันดานหรือครอบงำจิตใจผู้ใดแล้ว ย่อมทำให้เกิดความอยากได้ อยากมี อยากเป็น ยินดียินร้าย เป็นต้น ทำให้เกิดการดิ้นรนต่าง ๆ นานา เช่น เมื่ออยากมีอยากเป็นก็ต้องดิ้นรนเพื่อให้ได้มา เมื่อเกิดความอยากได้ก็ต้องดิ้นรนเพื่อให้ได้มา หากดิ้นรนเพื่อให้ได้มาในทางที่เป็นทุจริตเสียแล้ว ก็ย่อมเป็นการสร้างบาปอกุศลให้เกิดขึ้น เป็นการพอกพูนบาปขึ้นอีก

วัตถุกาม

วัตถุกาม แปลว่า วัตถุอันน่าใคร่ หมายถึง สิ่งที่ทำให้จิตใคร่หรือปรารถนา ได้แก่ กามคุณ 5 คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ที่เป็นอิฏฐารมณ์ คือ อารมณ์อันน่าใคร่น่าปรารถนา เช่น เมื่อตาเห็นรูปที่สวยงาม หูได้ฟังเสียงที่ไพเราะเสนาะโสต จมูกได้กลิ่นอันหอมหวนรัญจวนใจ ลิ้นได้ลิ้มรสที่อร่อยน่าลิ้ม หรือกายถูกต้องสัมผัสอันอ่อนโยนนุ่มนวนหรือน่าใคร่น่าชอบใจ ก็ทำให้จิตมีความยินดีพอใจ จากนั้นก็เกิดความดิ้นรนปรารถนาอยากได้ เมื่อได้มาแล้วก็เพลิดเพลินลุ่มหลงอยู่ในอารมณ์นั้น ไม่คิดจะถอนตนให้พ้นออกไป เมื่อไม่ได้มาหรือเสียไปก็ดิ้นรนขวนขวายเพื่อให้ได้มา โดยไม่คำนึงถึงผิดชอบชั่วดี

กิเลสกามและวัตถุกามทั้ง 2 อย่างนี้ มีความเกี่ยวเนื่องกัน โดยวัตถุกามจะเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดกิเลสกามขึ้นมา คือวัตถุกามเป็นสิ่งที่ยั่วยุให้กิเลสกามแสดงตัว ถ้าวัตถุกามไม่ปรากฏ กิเลสกามก็ไม่ปรากฏ

ตัวอย่างเช่น ผู้ชายเห็นผู้หญิงที่มีรูปร่างหน้าตาสวยสดงดงามก็เกิดความชอบความพอใจขึ้นมา หรือผู้หญิงเห็นผู้ชายที่มีหน้าตาหล่อเหลาแล้วเกิดความชอบความพอใจขึ้นมา ได้ยินเสียงเพลงที่ไพเราะแล้วก็พอใจ ได้กินอาหารที่มีรสชาติเอร็ดอร่อยแล้วพอใจ เป็นต้น

พระพุทธเจ้าทรงแนะนำให้เหล่าพุทธสาวกหมั่นพิจารณาให้เห็นวัตถุกามทั้งหลายตามความเป็นจริง คือให้ยกขึ้นสู่พระไตรลักษณ์ พิจารณาให้เห็นสิ่งเหล่านั้นว่าเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยงแท้แน่นอน ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ และไม่ใช่ตัวตน ไม่สามารถบังคับบัญชาได้ เป็นสิ่งที่มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เป็นธรรมดา ไม่มีสาระแก่นสารใด ๆ ให้หลงใหลติดอยู่ เมื่อหมั่นพิจารณาอย่างนี้เนือง ๆ ก็จะสามารถป้องกันกิเลสกามไม่ให้เกิดขึ้นได้