อริยบุคคล 2

อริยบุคคล แปลว่า บุคคลผู้เป็นอริยะ หรือ บุคคลผู้ประเสริฐ ได้แก่ บุคคลผู้ข้ามพ้นความเป็นปุถุชนได้แล้ว บรรลุธรรมขั้นสูงในพระพุทธศาสนา ตั้งแต่โสดาปัตติมรรคขึ้นไป ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ ซึ่งบุคคลประเภทนี้มีเพียงในพุทธศาสนาเท่านั้น

อริยบุคคล 2 ประกอบด้วย

  1. พระเสขะ ผู้ยังต้องศึกษา
  2. พระอเสขะ ผู้ไม่ต้องศึกษา

พระเสขะ

พระเสขะ แปลว่า ผู้ยังต้องศึกษา หมายถึง ผู้ถึงความเป็นพระอริยบุคคลแล้ว แต่ยังไม่ถึงที่สุด ยังมีกิจที่จะต้องศึกษาในไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ยังต้องขวนขวาย ยังต้องเพียรพยายามละกิเลสให้ได้ทั้งหมด เพื่อให้ได้บรรลุอรหัตตผล จึงจะเป็นอันจบสิ้น

สรุปก็คือ พระอริยบุคคลที่ยังไม่บรรลุพระอรหัตตผล ยังถือว่าเป็นพระเสขะ คือยังเป็นผู้ต้องศึกษาอยู่ ซึ่งก็ได้แก่พระอริยบุคคล 7 ประเภทแรก คือ

  • ผู้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติมรรค
  • ผู้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล
  • ผู้ตั้งอยู่ในสกทาคามิมรรค
  • ผู้ตั้งอยู่ในสกทาคามิผล
  • ผู้ตั้งอยู่ในอนาคามิมรรค
  • ผู้ตั้งอยู่ในอนาคามิผล
  • ผู้ตั้งอยู่ในอรหัตตมรรค

พระอริยบุคคลทั้ง 7 ประเภทนี้ ถ้าเปรียบกับนักศึกษา ก็ถือว่ายังเรียนไม่จบ ยังต้องเรียนต่อไปอีก คือท่านเหล่านี้ยังต้องศึกษาในไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ต่อไปอีก เพื่อให้ได้บรรลุอรหัตตผลอันเป็นเป้าหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา จึงจะจบสิ้นกระบวนการของการศึกษาเข้าสู่ความเป็นอเสขะ

พระอเสขะ

พระอเสขะ แปลว่า ผู้ไม่ต้องศึกษา หมายถึง ผู้ที่หมดภาระในการที่จะต้องศึกษาในไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา อีกต่อไปแล้ว ไม่ต้องขวนขวายเพื่อละกิเลสอาสวะอีกต่อไปแล้ว เพราะได้ศึกษาจบโดยได้บรรลุอรหัตตผลแล้ว เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า อเสขบุคคล ได้แก่พระอริยบุคคลระดับสูงสุดคือพระอรหันต์ ผู้เสร็จกิจในการศึกษาไตรสิกขาแล้ว ผู้ไม่มีกิจที่จะต้องบำเพ็ญเพื่อละกิเลสอีก

พระอเสขะนี้ ถ้าเปรียบกับนักศึกษาก็จะได้แก่ผู้ที่เรียนจบแล้ว ได้ประกาศนียบัตรแล้ว ไม่ต้องศึกษาต่อแล้ว