ปัญหาข้อที่ 1
ถาม อภิสมาจารคืออะไร ? แบ่งเป็นกี่ประเภท ? อะไรบ้าง ?
ตอบ คือธรรมเนียมของภิกษุ แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ เป็นข้อห้าม 1 เป็นข้ออนุญาต 1 ฯ
ถาม ขันธ์แห่งจีวรประกอบด้วยอะไรบ้าง ? ทรงมีพระพุทธานุญาตไว้อย่างไร ?
ตอบ ประกอบด้วยมณฑล อัฑฒมณฑล และอัฑฒกุสิ ฯ ทรงมีพระพุทธานุญาตไว้ว่า จีวรผืนหนึ่งให้มีขันธ์ไม่น้อยกว่า 5 เกินกว่านั้นใช้ได้ แต่ให้เป็นขันธ์ที่เป็นคี่ คือ 7, 9, 11 เป็นต้น ฯ
ปัญหาข้อที่ 2
ถาม ในบาลีแสดงเหตุนิสัยจะระงับจากอุปัชฌาย์ไว้เท่าไร ? อะไรบ้าง ?
ตอบ แสดงไว้ 5 ประการคือ อุปัชฌาย์หลีกไปเสีย 1 สึกเสีย 1 ตายเสีย 1 ไปเข้ารีตเดียรถีย์ 1 สั่งบังคับ 1 ฯ
ถาม ภิกษุผู้ควรจะได้นิสัยมุตตกะต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง ?
ตอบ มีคุณสมบัติ คือ
- เป็นผู้มีศรัทธา มีหิริ มีโอตตัปปะ มีวิริยะ มีสติ
- เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล อาจาระ ความเห็นชอบ เคยได้ยินได้ฟังมาก มีปัญญา
- รู้จักอาบัติ มิใช่อาบัติ อาบัติเบา อาบัติหนัก จำปาฏิโมกข์ได้แม่นยำ ทั้งมีพรรษาได้ 5 หรือยิ่งกว่า ฯ
ปัญหาข้อที่ 3
ถาม อุปัชฌาย์ประณามสัทธิวิหาริกผู้ประพฤติมิชอบด้วยเหตุอะไรบ้าง ?
ตอบ ด้วยเหตุดังนี้ คือ หาความรักใคร่ในอุปัชฌาย์มิได้ 1 หาความเลื่อมใสมิได้ 1 หาความละอายมิได้ 1 หาความเคารพมิได้ 1 หาความหวังดีต่อมิได้ 1 ฯ
ถาม อาการที่อุปัชฌาย์ประณามสัทธิวิหาริกพึงทำอย่างไร ?
ตอบ พึงพูดให้รู้ว่าตนไล่เธอเสีย ในบาลีแสดงไว้ว่า เราประณามเธอ เธออย่าเข้ามา ณ ที่นี้ จงขนบาตรจีวรของเธอออกไปเสีย หรือเธอไม่ต้องอุปัฏฐากเรา ดังนี้ หรือแสดงอาการทางกายให้รู้อย่างนั้นก็ได้ ฯ
ปัญหาข้อที่ 4
ถาม ภิกษุผู้เป็นอาคันตุกะ ไปสู่อาวาสอื่น พึงประพฤติให้ถูกธรรมเนียมอย่างไร ?
ตอบ พึงประพฤติดังนี้
- ทำความเคารพในท่าน
- แสดงความเกรงใจเจ้าของถิ่น
- แสดงอาการสุภาพ
- แสดงอาการสนิทสนมกับเจ้าของถิ่น
- ถ้าจะอยู่ที่นั่น ควรประพฤติให้ถูกธรรมเนียมของเจ้าของถิ่น
- ถือเสนาสนะแล้วอย่าดูดาย เอาใจใส่ชำระปัดกวาดให้หมดจด จัดตั้งเครื่องเสนาสนะให้เป็นระเบียบ ฯ
ถาม ภิกษุผู้เข้าไปรับบิณฑบาตในละแวกบ้าน พึงประพฤติให้ถูกธรรมเนียมอย่างไร ?
ตอบ พึงประพฤติอย่างนี้
- นุ่งห่มให้เรียบร้อย
- ถือบาตรในภายในจีวร
- สำรวมกิริยาให้เรียบร้อย
- กำหนดทางเข้าทางออกแห่งบ้าน
- รับบิณฑบาตด้วยอาการสำรวม ฯ
ปัญหาข้อที่ 5
ถาม ภิกษุผู้เข้าไปในเจติยสถาน ควรปฏิบัติอย่างไร ?
ตอบ ควรปฏิบัติอย่างนี้ คือไม่กั้นร่ม ไม่สวมรองเท้า ไม่ห่มคลุมเข้าไป ไม่แสดงอาการดูหมิ่นต่างๆ เช่นพูดเสียงดัง และนั่งเหยียดเท้าเป็นต้น ไม่ถ่ายอุจจาระปัสสาวะ และไม่ถ่มเขฬะในลานพระเจดีย์ ฯ
ถาม ภิกษุได้ชื่อว่า “กุลปสาทโก ผู้ยังตระกูลให้เลื่อมใส” เพราะมีปฏิปทาอย่างไร ?
ตอบ เพราะมีปฏิปทาอย่างนี้ คือเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยอาจาระ ไม่ทอดตนเป็นคนสนิทของสกุล โดยฐานเป็นคนเลว และอีกอย่างหนึ่ง ไม่รุกรานตัดรอนเขา แสดงเมตตาจิตต่อเขา ประพฤติพอดีพองาม ยังความเลื่อมใสนับถือของเขาให้เกิดในตน ฯ
ปัญหาข้อที่ 6
ถาม ดิถีที่กำหนดให้เข้าจำพรรษาในบาลีกล่าวไว้เท่าไร ? อะไรบ้าง ?
ตอบ กล่าวไว้ 2 คือ
- ปุริมิกา วัสสูปนายิกา วันเข้าพรรษาต้น คือวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8
- ปัจฉิมิกา วัสสูปนายิกา วันเข้าพรรษาหลัง คือวันแรม 1 ค่ำ เดือน 9 ฯ
ถาม สัตตาหกรณียะ และ สัตตาหกาลิก มีอธิบายอย่างไร ?
ตอบ
- สัตตาหกรณียะ คือภิกษุผู้อยู่จำพรรษาไปแรมคืนที่อื่นด้วยกิจจำเป็นบางอย่าง แต่กลับมาภายใน 7 วัน เรียกว่าไปด้วยสัตตาหกรณียะ หรือสัตตาหะ ฯ
- สัตตาหกาลิก คือของที่รับประเคนแล้วเก็บไว้บริโภคได้ 7 วัน ฯ
ปัญหาข้อที่ 7
ถาม ผู้ทำและอาการที่ทำในการทำอุโบสถ มีอะไรบ้าง ?
ตอบ ผู้ทำมี 3 คือสงฆ์ คณะ และบุคคล ฯ อาการที่ทำมี 3 คือสวดปาฏิโมกข์ บอกความบริสุทธิ์ และอธิษฐาน ฯ
ถาม การทำอุโบสถต้องพร้อมด้วยองค์อย่างไรบ้าง ?
ตอบ พร้อมด้วยองค์ 4 คือ
- วันนั้นเป็นวันอุโบสถที่ 14 หรือ 15 หรือวันสามัคคี วันใดวันหนึ่ง
- ภิกษุผู้เข้าประชุมครบองค์ประชุม คือตั้งแต่ 4 รูปขึ้นไป
- พวกเธอไม่ต้องสภาคาบัติ
- บุคคลที่จำต้องเว้น ไม่มีในที่ประชุมนั้น ฯ
ปัญหาข้อที่ 8
ถาม วันปวารณา และอาการที่กระทำ คืออะไรบ้าง ?
ตอบ
- วันปวารณามี 3 คือ จาตุททสี ที่ 14 ค่ำ 1 ปัณณรสี ที่ 15 ค่ำ 1 สามัคคี วันที่ภิกษุสงฆ์พร้อมเพรียงกัน 1 ฯ
- อาการที่กระทำมี 3 คือปวารณาต่อที่ประชุม 1 ปวารณากันเอง 1 อธิษฐานใจ 1 ฯ
ถาม การตั้งญัตติในสังฆปวารณามีกี่อย่าง ? อะไรบ้าง ?
ตอบ มี 5 อย่าง คือ เตวาจิกาญัตติ 1 เทววาจิกาญัตติ 1 เอกวาจิกาญัตติ 1 สมานวัสสิกาญัตติ 1 สัพพสังคาหิกาญัตติ 1 ฯ
ปัญหาข้อที่ 9
ถาม ภิกษุไม่สังวรในอุปปถกิริยา จะพึงได้รับโทษอย่างไรบ้าง ?
ตอบ ปรับเป็นอาบัติทุกกฏ และเป็นฐานที่สงฆ์จะพึงลงโทษ 4 สถาน อย่างใดอย่างหนึ่ง ตามโทษานุโทษ คือ
- ตัชชนียกรรม ตำหนิโทษ
- นิยสกรรม ถอดยศ คือถอดความเป็นผู้ใหญ่
- ปัพพาชนียกรรม ขับไล่จากวัด
- ปฏิสารณียกรรม ให้หวนระลึกถึงความผิด ฯ
ถาม การแสวงหาเช่นไรจัดเป็นโลกวัชชะ มีโทษทางโลก ? เช่นไรจัดเป็นปัณณัตติวัชชะ มีโทษทางพระบัญญัติ ?
ตอบ การแสวงหาในทางบาป เช่นทำโจรกรรมและหลอกลวงให้เขาเชื่อถือ และในทางที่โลกเขาดูหมิ่น จัดเป็นโลกวัชชะ ฯ การแสวงหาในทางผิดธรรมเนียมของภิกษุ แม้ไม่มีโทษแก่คนพวกอื่น จัดเป็นปัณณัตติวัชชะ ฯ
ปัญหาข้อที่ 10
ถาม ในบาลีแสดงลักษณะการถือวิสาสะไว้อย่างไรบ้าง ?
ตอบ แสดงไว้อย่างนี้ คือ
- เป็นผู้เคยได้เห็นกันมา
- เป็นผู้เคยคบกันมา
- ได้พูดกันไว้
- ยังมีชีวิตอยู่
- รู้ว่าของนั้น เราถือเอาแล้ว เจ้าของจักพอใจ ฯ
ถาม เหตุที่ควรถือเป็นประมาณ 5 ประการให้บริขารขาดอธิษฐาน มีอะไรบ้าง ?
ตอบ มีดังนี้ คือ
- ให้แก่ผู้อื่น
- ถูกโจรชิงเอาไปหรือลักเอาไป
- มิตรถือเอาด้วยวิสาสะ
- ถอนเสียจากอธิษฐาน
- เป็นช่องทะลุ ฯ