๑. ธรรมชาติที่มีอิทธิพลเหนือดวงดาว ผีสางเทวดา ตรงกับข้อใด ?
ก. เทวานุภาพ
ข. พระผู้เป็นเจ้า
ค. เครื่องรางของขลัง
ง. กฎแห่งกรรม
๒. การประกอบกรรมดี ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ เรียกว่าอะไร ?
ก. กุศลเจตนา
ข. อกุศลเจตนา
ค. กุศลกรรม
ง. อกุศลกรรม
๓. การทำความดีของมนุษย์ทั้งหลาย มุ่งถึงประโยชน์อะไร ?
ก. เพื่อเพิ่มพูนบุญกุศล
ข. เพื่องดเว้นความชั่ว
ค. เพื่อละความเห็นแก่ตัว
ง. ถูกทุกข้อ
๔. กุศลกรรมบถ มีความหมายตรงกับข้อใด ?
ก. ทางแห่งความดี
ข. ทางไปทุคติ
ค. ทางแห่งกรรม
ง. ทางก้าวหน้า
๕. ผลแห่งกรรมดีที่บุคคลพึงได้รับในชาติหน้า ตรงกับข้อใด ?
ก. มนุษย์สรรเสริญ
ข. เทวดาสรรเสริญ
ค. ตายแล้วไปสุคติ
ง. ตายแล้วไปทุคติ
๖. ความดีทางกาย เป็นเหตุให้เกิดความสุข ตรงกับข้อใด ?
ก. การไม่ฆ่าสัตว์
ข. การไม่พูดโกหก
ค. การไม่โลภอยากได้
ง. การไม่ปองร้าย
๗. ความชั่วทางใจ เป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ ตรงกับข้อใด ?
ก. การลักทรัพย์
ข. การพูดเท็จ
ค. การนอกใจสามี
ง. การปองร้าย
๘. การทำกรรมดีหรือกรรมชั่ว มีอะไรเป็นเครื่องสนับสนุน ?
ก. อารมณ์
ข. เจตนา
ค. มูลเหตุ
ง. เวทนา
๙. ปกติของจิตเป็นธรรมชาติใสสะอาด แต่กลายสภาพเป็นความโลภ เพราะมีอะไรเข้าไปอิงอาศัย ?
ก. โลภะ
ข. โทสะ
ค. โมหะ
ง. ถูกทุกข้อ
๑๐. บุคคลมีจิตประกอบด้วยโทสะ ย่อมมีพฤติกรรมเช่นไร ?
ก. ฟุ้งซ่าน
ข. มักใจร้อน
ค. ยิ้มแย้ม
ง. หลงๆ ลืมๆ
๑๑. โทสะเป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อนในชาติหน้า ตรงกับข้อใด ?
ก. ตนเองเดือดร้อน
ข. โลกเร่าร้อน
ค. ขาดสันติภาพ
ง. เกิดในอบาย
๑๒. บุคคลมีจิตถูกโมหะครอบงำ ย่อมมีพฤติกรรมเช่นไร ?
ก. เห็นแก่ได้
ข. ลักขโมย
ค. เชื่องมงาย
ง. ก่อวิวาท
๑๓. การบำเพ็ญทาน ศีล ภาวนา ช่วยบรรเทาอะไรให้เบาบางลง ?
ก. โลภะ
ข. โทสะ
ค. โมหะ
ง. ถูกทุกข้อ
๑๔. บุคคลมีจิตประกอบด้วยเมตตา พูดว่า “ขอเหล่าสัตว์ จงเป็นสุข” จัดเป็นมโนกรรม เกิดขึ้นทางทวารใด ?
ก. กายทวาร
ข. วจีทวาร
ค. มโนทวาร
ง. ทุกทวาร
๑๕. เมื่อโทสะเกิดขึ้น หากระงับไม่ได้ จะทำให้คนเราทำความผิดใด ?
ก. ทำร้ายกัน
ข. ลักขโมยกัน
ค. นอกใจกัน
ง. เชื่อในสิ่งผิด
๑๖. ความพลัดพรากจากของที่ชอบ เป็นผลของอกุศลกรรมบถใด ?
ก. ปาณาติบาต
ข. อทินนาทาน
ค. กาเมสุมิจฉาจาร
ง. สัมผัปปลาป
๑๗. “โหดร้าย มือไว ใจมากรัก” ตรงกับอกุศลกรรมบถหมวดใด ?
ก. กายกรรม
ข. วจีกรรม
ค. มโนกรรม
ง. ถูกทุกข้อ
๑๘. การประพฤติผิดในกาม ย่อมเป็นไปเพื่อเพิ่มอกุศลธรรมใด ?
ก. ราคะ
ข. โทสะ
ค. โมหะ
ง. มานะ
๑๙. การแสดงธรรมว่าเป็นอธรรม ชื่อว่าประพฤติอกุศลกรรมบถใด ?
ก. อภิชฌา
ข. มุสาวาท
ค. สัมผัปปลาป
ง. มิจฉาทิฏฐิ
๒๐. การพูดเพื่อหักประโยชน์ผู้อื่น แต่ตนได้ประโยชน์ ตรงกับข้อใด ?
ก. อภิชฌา
ข. อนภิชฌา
ค. มุสาวาท
ง. ผรุสวาจา
๒๑. การพูดยุแหย่เพื่อให้แตกความสามัคคีในหมู่คณะ ตรงกับข้อใด ?
ก. ปิสุณวาจา
ข. ผรุสวาจา
ค. มิจฉาทิฏฐิ
ง. พยาบาท
๒๒. “คนนี้พูดหาสาระมิได้” ผู้กล่าวหมายเอาวจีทุจริตข้อใด ?
ก. ปิสุณวาจา
ข. มุสาวาท
ค. สัมผัปปลาป
ง. ผรุสวาจา
๒๓. ข้อใด ผู้ให้การเป็นพยานในศาลควรเว้น ไม่ควรกระทำ ?
ก. รู้บอกว่ารู้
ข. ไม่รู้บอกว่าไม่รู้
ค. รู้บอกว่าไม่รู้
ง. เห็นบอกว่าเห็น
๒๔. คำพูดใด เป็นสาเหตุให้พระเจ้าวิฑูฑภะต้องฆ่าพวกเจ้าศากยะ ?
ก. ปิสุณวาจา
ข. มุสาวาท
ค. สัมผัปปลาป
ง. ผรุสวาจา
๒๕. ข้อใด จัดเป็นมโนกรรมฝ่ายอกุศล ?
ก. อยากได้ของเขา
ข. ประทุษร้ายเขา
ค. หลอกลวงเขา
ง. ผิดลูกเมียเขา
๒๖. ข้อใด จัดเป็นมโนกรรมฝ่ายกุศล ?
ก. อยากฆ่าคน
ข. อยากโกหก
ค. อยากทำบุญ
ง. อยากฉ้อฉล
๒๗. คนเราสามารถกระทำความดีทางใจได้อย่างไร ?
ก. ไม่โลภอยากได้ของเขา
ข. ไม่พยาบาทปองร้ายเขา
ค. ไม่เห็นผิดคลองธรรม
ง. ถูกทุกข้อ
๒๘. พระพุทธศาสนาสอนเกี่ยวกับความเห็นไว้อย่างไร ?
ก. เห็นว่าโลกเที่ยง
ข. เห็นว่าตายแล้วสูญ
ค. เห็นว่ากรรมลิขิต
ง. เห็นว่าพรหมลิขิต
๒๙. ความโลภอยากได้ของบุคคลเกิดขึ้นในขณะใด จัดเป็นอภิชฌา ?
ก. กำลังเห็น
ข. เห็นแล้ว
ค. ยังไม่เห็น
ง. ทุกขณะ
๓๐. สิ่งที่จิตเข้าไปยึดติดแล้วเป็นเหตุให้เกิดอภิชฌา ตรงกับข้อใด ?
ก. ลาภ ยศ
ข. เสื่อมลาภ
ค. เสื่อมยศ
ง. ถูกนินทา
๓๑. อภิชฌา เป็นมูลเหตุให้บุคคลประพฤติผิดเรื่องใด ?
ก. ฆ่าสัตว์
ข. ลักทรัพย์
ค. เห็นผิด
ง. ปองร้าย
๓๒. บุคคลมีจิตใจปราศจากอภิชฌา ย่อมมีลักษณะเช่นไร ?
ก. ไม่โลภ
ข. ไม่โกรธ
ค. ไม่หลง
ง. ไม่ถือตัว
๓๓. อกุศลกรรมบถใด เกิดขึ้นด้วยอำนาจของความโกรธ ?
ก. มุสาวาท
ข. อภิชฌา
ค. พยาบาท
ง. มิจฉาทิฏฐิ
๓๔. “ฝากไว้ก่อนเถอะ เดี๋ยวค่อยเห็นดีกัน” พูดด้วยอารมณ์เช่นไร ?
ก. แค้นใจ
ข. เสียใจ
ค. น้อยใจ
ง. เศร้าใจ
๓๕. คุณธรรมใด มีคุณูปการช่วยให้คนเราปราศจากความพยาบาท ?
ก. เมตตา
ข. กรุณา
ค. มุทิตา
ง. อุเบกขา
๓๖. อพยาบาท การไม่คิดร้ายทำลายกัน จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ?
ก. ถือพวก
ข. ถือเพื่อน
ค. ถือสถาบัน
ง. ถือธรรม
๓๗. “เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร” ตรงกับข้อใด ?
ก. อพรหมจรรย์
ข. อนภิชฌา
ค. สัมมาทิฏฐิ
ง. อพยาบาท
๓๘. อะไรเป็นเหตุให้คนเราไม่เชื่อบุญไม่เชื่อบาป ?
ก. มิจฉาสติ
ข. มิจฉาทิฏฐิ
ค. มิจฉาสมาธิ
ง. มิจฉาวาจา
๓๙. อกุศลกรรมบถใด ให้ผลหนักและรุนแรงกว่ากรรมอื่น ?
ก. ปาณาติบาต
ข. มุสาวาท
ค. มิจฉาทิฏฐิ
ง. พยาบาท
๔๐. “ทำดีได้ดีมีที่ไหน ?” ผู้พูดมีความคิดเห็นเช่นใด ?
ก. ไม่เชื่อผลกรรม
ข. ไม่ปฏิเสธกรรม
ค. ไม่คัดค้านกรรม
ง. ไม่ทำบาปกรรม
๔๑. “เห็นกงจักรเป็นดอกบัว” มีความหมายตรงกับข้อใด ?
ก. อภิชฌา
ข. พยาบาท
ค. มิจฉาทิฏฐิ
ง. ถูกทุกข้อ
๔๒. ความเห็นในทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ตรงกับข้อใด ?
ก. สัมมาสติ
ข. สัมมาสังกัปปะ
ค. สัมมาทิฏฐิ
ง. สัมมาวายามะ
๔๓. การกระทำใด ไม่เกี่ยวข้องกับการประพฤติกุศลกรรมบถ ?
ก. ให้ทาน
ข. สะเดาะเคราะห์
ค. รักษาศีล
ง. เจริญกรรมฐาน
๔๔. คนมีอุปนิสัยชอบแบ่งปัน เสียสละ คอยให้ความช่วยเหลือผู้อื่น ด้วยจิตใจดีงาม ตรงกับข้อใด ?
ก. ทานูปนิสัย
ข. สีลูปนิสัย
ค. ภาวนูปนิสัย
ง. ถูกทุกข้อ
๔๕. “เขามีอุปนิสัยเรียบร้อยมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว” ตรงกับข้อใด ?
ก. ทานูปนิสัย
ข. สีลูปนิสัย
ค. ภาวนูปนิสัย
ง. ถูกทุกข้อ
๔๖. ผลของการกระทำความดี ความชั่ว ตรงกับข้อใด ?
ก. กิเลส
ข. กรรม
ค. วิบาก
ง. ถูกทุกข้อ
๔๗. คำว่า “เจ้ากรรมนายเวร” ที่คนนิยมพูดกัน หมายถึงอะไร ?
ก. กรรมบถ
ข. ผลกรรมดี
ค. กรรมเวร
ง. ผลกรรมชั่ว
๔๘. การได้เกิดในตระกูลพราหมณ์มหาศาล จัดเป็นสมบัติใด ?
ก. มนุษยสมบัติ
ข. สวรรคสมบัติ
ค. ทรัพยสมบัติ
ง. นิพพานสมบัติ
๔๙. เพราะเหตุไร สัตว์โลกจึงต้องเป็นไปตามกรรม ?
ก. เพราะเป็นอนิจจัง
ข. เพราะทุกคนมีทุกข์
ค. เพราะขัดขืนไม่ได้
ง. เพราะต้องเกิดอีก
๕๐. กุศลกรรมบถ ๑๐ ประการ สงเคราะห์เข้าในสิกขาข้อใด ?
ก. ศีล
ข. สมาธิ
ค. ปัญญา
ง. ถูกทุกข้อ