ปัญหาข้อที่ 1
ถาม สิกขาบทนอกพระปาฏิโมกข์เรียกว่าอะไร ? ทรงบัญญัติไว้เพื่อประโยชน์อะไร ?
ตอบ เรียกว่า อภิสมาจาร ทรงบัญญัติไว้เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของภิกษุ และเพื่อความงามของพระศาสนา เช่นเดียวกับตระกูลใหญ่ จำต้องมีขนบธรรมเนียมและระเบียบไว้รักษาเกียรติและความเป็นผู้ดีของตระกูล
ถาม กายบริหาร ข้อที่ 3 และข้อที่ 7 มีความว่าอย่างไร ?
ตอบ มีความว่าดังนี้
- ข้อที่ 3 อย่าพึงไว้เล็บยาว การขัดมลทินหรือแคะมูลเล็บเป็นกิจควรทำ
- ข้อที่ 7 อย่าพึงแต่งเครื่องประดับต่างๆ เช่น ตุ้มหู สายสร้อยและแหวน เป็นต้น
ปัญหาข้อที่ 2
ถาม บาตรที่ทรงอนุญาตมีกี่ชนิด ? อะไรบ้าง ? บาตรแสตนเลสจัดเข้าในชนิดไหน ?
ตอบ มี 2 ชนิด คือ
- บาตรดินเผา
- บาตรเหล็ก
บาตรแสตนเลสจัดเข้าในบาตรเหล็ก
ถาม บาตรที่ทรงห้ามมีกี่ชนิด ? อะไรบ้าง ?
ตอบ มี 11 ชนิด คือ
- บาตรทอง
- บาตรเงิน
- บาตรแก้วมณี
- บาตรแก้วไพฑูรย์
- บาตรแก้วผลึก
- บาตรแก้วหุง
- บาตรทองแดง
- บาตรทองเหลือง
- บาตรดีบุก
- บาตรสังกะสี
- บาตรไม้
ปัญหาข้อที่ 3
ถาม นิสัยคืออะไร ? เหตุให้นิสัยระงับมีเท่าไร ? อะไรบ้าง ?
ตอบ นิสัย คือ กิริยาที่พึ่งพิงของสัทธิวิหาริกและอันเตวาสิก ต่อพระอุปัชฌาย์และพระอาจารย์
เหตุให้นิสัยระงับจากพระอุปัชฌาย์ มี 5 คือ
- หลีกไปเสีย
- สึกเสีย
- ตายเสีย
- ไปเข้ารีตเดียรถีย์
- สั่งบังคับ
ส่วนเหตุให้นิสัยระงับจากพระอาจารย์ เพิ่มอีก 1 ข้อ คือ อันเตวาสิกรวมเข้ากับพระอุปัชฌาย์ของเธอ
ถาม ภิกษุเช่นไรควรได้นิสัยมุตตกะ ?
ตอบ ภิกษุผู้ควรได้นิสัยมุตตกะ คือ
- เป็นผู้มีศรัทธา หิริ โอตตัปปะ วิริยะ สติ
- เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล อาจาระ ความเห็นชอบ เคยได้ยินได้ฟังมามาก มีปัญญา
- รู้จักอาบัติ มิใช่อาบัติ อาบัติเบา อาบัติหนัก จำพระปาฏิโมกข์ได้แม่นยำ ทั้งมีพรรษาพ้น 5
ปัญหาข้อที่ 4
ถาม วัตรคืออะไร ? มีกี่อย่าง ? อะไรบ้าง ?
ตอบ วัตรคือแบบอย่างอันภิกษุควรประพฤติในกาลนั้น ๆ ในที่นั้น ๆ ในกิจนั้น ๆ แก่บุคคลนั้น ๆ มี 3 อย่าง คือ
- กิจวัตร
- จริยาวัตร
- วิธิวัตร
ถาม วัตถุอนามาสคืออะไร ? มีอะไรบ้าง ?
ตอบ วัตถุอนามาส คือวัตถุไม่ควรจับต้อง มีดังนี้
- ผู้หญิง รวมทั้งเครื่องแต่งกาย ทั้งรูปที่ทำมีสัณฐานเช่นนั้น และ ดิรัจฉานตัวเมีย
- ทอง เงิน และรัตนะ
- ศัสตราวุธ
- เครื่องดักสัตว์
- เครื่องประโคมทุกอย่าง
- ข้าวเปลือก และผลไม้อันเกิดอยู่ในที่
ปัญหาข้อที่ 5
ถาม กิจอันสงฆ์จะพึงทำก่อนสวดปาฏิโมกข์มีกี่อย่าง ? อะไรบ้าง ?
ตอบ มี 9 อย่างคือ
- กวาดโรงอุโบสถ
- ตามประทีป
- ปูอาสนะ
- ตั้งน้ำฉันน้ำใช้
- นำปาริสุทธิของภิกษุผู้เจ็บไข้มา
- นำฉันทะของเธอมาด้วย
- บอกฤดู
- นับภิกษุ
- สั่งสอนนางภิกษุณี
ถาม สงฆ์สวดปาฏิโมกข์อยู่ ภิกษุอื่นมาถึง หรือมาถึงเมื่อสวดจบแล้ว พึงปฏิบัติอย่างไร ?
ตอบ พึงปฏิบัติอย่างนี้ คือ ถ้าภิกษุมาใหม่มากกว่าภิกษุที่ประชุมกันอยู่ ต้องสวดตั้งต้นใหม่ ถ้าเท่ากันหรือน้อยกว่า ส่วนที่สวดไปแล้วก็แล้วกันไป ให้ภิกษุที่มาใหม่ฟังส่วนที่ยังเหลืออยู่ต่อไป ถ้ามาเมื่อสวดจบแล้ว แม้มากกว่า ก็ไม่ต้องสวดซ้ำอีก ให้ภิกษุที่มาใหม่บอกปาริสุทธิในสำนักภิกษุผู้สวดผู้ฟังปาฏิโมกข์แล้ว
ปัญหาข้อที่ 6
ถาม ความรู้อะไรบ้างที่จัดเป็นดิรัจฉานวิชา ?
ตอบ ความรู้ที่จัดเป็นดิรัจฉานวิชา คือ
- ความรู้ในทางทำเสน่ห์
- ความรู้ในทางทำให้ผู้นั้นผู้นี้ถึงความวิบัติ
- ความรู้ในทางใช้ภูตผีอวดฤทธิ์เดชต่าง ๆ
- ความรู้ในทางทำนายทายทัก
- ความรู้อันทำให้หลงงมงาย เช่น หุงปรอท
ถาม ภิกษุประพฤติเช่นไรเรียกว่าทำศรัทธาไทยให้ตกไป ?
ตอบ ภิกษุรับของที่เขาถวาย เพื่อเกื้อกูลแก่พระศาสนาแล้ว ไม่บริโภค แต่ กลับนำไปให้แก่คฤหัสถ์เสีย ทำให้ผู้บริจาคเสื่อมศรัทธา เช่นนี้เรียกว่า ทำศรัทธาไทยให้ตกไป (ยกเว้น อนามัฏฐบิณฑบาต ทรงอนุญาตพิเศษ ให้แก่มารดาบิดาได้)
ปัญหาข้อที่ 7
ถาม อเนสนาได้แก่อะไร ? มีอะไรบ้าง ?
ตอบ อเนสนาได้แก่ กิริยาแสวงหาเลี้ยงชีพในทางไม่สมควร แสดงโดยเค้ามี 2 อย่างคือ
- การแสวงหาเป็นโลกวัชชะ มีโทษทางโลก
- การแสวงหาเป็นปัณณัตติวัชชะ มีโทษทางพระบัญญัติ
ถาม การทำวิญญัติคือการทำอย่างไร ? จัดเข้าในอุปปถกิริยาประเภทไหน ?
ตอบ การทำวิญญัติ คือ การออกปากขอของต่อบุคคลที่ไม่ควรขอ หรือในเวลาที่ไม่ควรขอ เช่น ขอต่อคฤหัสถ์ที่ไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่ปวารณา ขอในยามปกติที่มิได้ทรงอนุญาต เป็นต้น จัดเข้าในอุปปถกิริยาประเภทอเนสนา
ปัญหาข้อที่ 8
ถาม จงให้ความหมายของคำว่า กาลิก ยาวกาลิก ยามกาลิก สัตตาหกาลิก ยาวชีวิก
ตอบ
- กาลิก คือของที่จะพึงกลืนให้ล่วงลำคอลงไป
- ยาวกาลิก คือของที่ให้บริโภคได้ชั่วคราว ตั้งแต่เช้าชั่วเที่ยงวัน
- ยามกาลิก คือของที่ให้บริโภคได้ชั่วคราว คือ 1 วัน กับ 1 คืน
- สัตตาหกาลิก คือของที่ให้บริโภคได้ชั่วคราว 7 วัน
- ยาวชีวิก คือของที่ให้บริโภคได้เสมอ ไม่จำกัดกาล
ถาม น้ำอ้อยเป็นกาลิกอะไร ?
ตอบ ถ้าเป็นน้ำอ้อยสด จัดเป็นยามกาลิก ถ้าเป็นน้ำอ้อยเคี่ยวจนแข้นแข็ง จัดเป็นสัตตาหกาลิก
ปัญหาข้อที่ 9
ถาม อุกเขปนียกรรม สงฆ์ควรทำแก่ภิกษุผู้ประพฤติเช่นไร ?
ตอบ ควรทำแก่ภิกษุผู้ต้องอาบัติแล้วไม่ยอมรับว่าเป็นอาบัติ ที่เรียกว่า ไม่เห็นอาบัติ หรือยอมรับว่าเป็นอาบัติแต่ไม่แสดง ที่เรียกว่า ไม่ทำคืนอาบัติ
ถาม อธิษฐาน (บริขารฬ มีกี่อย่าง ? อะไรบ้าง ?
ตอบ มี 2 อย่างคือ
- อธิษฐานด้วยกาย คือเอามือลูบบริขารที่จะอธิษฐานนั้นเข้า ทำความผูกใจตามคำอธิษฐาน
- อธิษฐานด้วยวาจา คือลั่นคำอธิษฐานนั้น ไม่ถูกของด้วยกายก็ได้
ปัญหาข้อที่ 10
ถาม สมบัติของภิกษุในทางพระวินัยมีเท่าไร ? อะไรบ้าง ?
ตอบ มี 4 คือ
- สีลสมบัติ
- อาจารสมบัติ
- ทิฏฐิสมบัติ
- อาชีวสมบัติ
ถาม ภิกษุประพฤติเช่นไร ได้ชื่อว่า โคจรวิบัติ ?
ตอบ ภิกษุไปสู่บุคคลก็ดี สถานที่ก็ดี อันภิกษุไม่ควรไป คือ หญิงแพศยา 1 หญิงหม้าย 1 สาวเทื้อ 1 ภิกษุณี 1 บัณเฑาะก์ 1 ร้านสุรา 1 ได้ชื่อว่า โคจรวิบัติ