ปัญหาข้อที่ 1
ถาม เจโตวิมุตติ กับ ปัญญาวิมุตติ ต่างกันอย่างไร ?
ตอบ
เจโตวิมุตติ เป็นวิมุตติของท่านผูได้บรรลุฌานมาก่อนแล้ว จึงบำเพ็ญวิปัสสนาต่อ ส่วนปัญญาวิมุตติ เป็นวิมุตติของท่านผูได้บรรลุด้วยลำพังบำเพ็ญวิปัสสนาล้วน
อีกนัยหนึ่ง เรียกเจโตวิมุตติเพราะพ้นจากราคะ เรียกปัญญาวิมุตติเพราะพ้นจากอวิชชา ฯ
ปัญหาข้อที่ 2
ถาม พระอริยบุคคล 8 จำพวก จำพวกไหนชื่อว่าพระเสขะ และพระอเสขะ ? เพราะเหตุไร ?
ตอบ พระอริยบุคคล 7 เบื้องต้น ชื่อว่าพระเสขะ เพราะเป็นผู้ยังต้องปฏิบัติเพื่อบรรลุมรรคผลเบื้องสูง ฯ พระอริยบุคคลผู้ตั้งอยู่ในอรหัตตผล ชื่อว่าพระอเสขะ เพราะเสร็จกิจอันจะต้องทำแล้ว ฯ
ปัญหาข้อที่ 3
ถาม ราคะ โลภะ อิสสา กลิ่น รส อย่างไหนเป็นกิเลสกาม อย่างไหนเป็นวัตถุกาม ?
ตอบ ราคะ โลภะ อิสสา เป็นกิเลสกาม กลิ่น รส เป็นวัตถุกาม ฯ
ปัญหาข้อที่ 4
ถาม คำว่า “โสดาบัน” แปลว่าอะไร ? ผู้บรรลุโสดาบันนั้น ละสังโยชน์อะไรได้เด็ดขาด ?
ตอบ โสดาบัน แปลว่า ผู้แรกถึงกระแสพระนิพพาน ฯ ท่านละสังโยชน์ได้เด็ดขาด 3 อย่าง คือ
- สักายทิฏฐิ
- วิจิกิจฉา
- สีลัพพตปรามาส
ปัญหาข้อที่ 5
ถาม ความตริในฝ่ายชั่ว เรียกว่าอะไร ? มีกี่อย่าง ? อะไรบ้าง ?
ตอบ ความตริในฝ่ายชั่ว เรียกว่า อกุศลวิตก มี 3 อย่าง คือ
- กามวิตก ความตริในทางกาม
- พยาบาทวิตก ความตริในทางพยาบาท
- วิหิงสาวิตก ความตริในทางเบียดเบียน
ปัญหาข้อที่ 6
ถาม มัจจุมาร ได้แก่อะไร ? ได้ชื่อว่าเป็นมารเพราะเหตุไร ?
ตอบ มัจจุมารได้แก่ ความตาย ฯ ชื่อว่าเป็นมาร เพราะเมื่อความตายเกิดขึ้น บุคคลย่อมหมดโอกาสที่จะทำประโยชน์ใด ๆ อีกต่อไป ฯ
ปัญหาข้อที่ 7
ถาม จริต คืออะไร ? คนมีปกติเชื่อง่ายเป็นจริตอะไร ?
ตอบ จริต คือ พื้นเพอัธยาศัยของบุคคลที่แสดงออกมาตามปกติเป็นประจำ ฯ คนมีปกติเชื่อง่าย เป็นสัทธาจริต ฯ
ปัญหาข้อที่ 8
ถาม กิเลสที่ได้ชื่อว่าอนุสัยและได้ชื่อว่าสังโยชน์ มีอธิบายอย่างไร ?
ตอบ
กิเลสทีได้ชื่อว่าอนุสัย เพราะเป็นกิเลสอย่างละเอียด นอนเนื่องอยู่ในสันดานของสัตว์ มักไม่ปรากฏ ต่อเมื่อมีอารมณ์มายั่วจึงปรากฏขึ้น
กิเลสทีได้ชื่อว่าสังโยชน์ เพราะเป็นกิเลสทีผูกใจสัตว์ไว้กับภพไม่ให้หลุดพ้นไปได้ ฯ
ปัญหาข้อที่ 9
ถาม พระพุทธคุณบทว่า อรหํ เป็นพระอรหันต์ มีความหมายอย่างไรบ้าง ? เลือกตอบมา 2 อย่าง
ตอบ มีความหมายได้ 4 อย่าง คือ (เลือกตอบ 2 อย่าง)
- ชื่อว่าเป็นพระอรหันต์ เพราะเป็นผู้ไกลจากกิเลสและบาปธรรม กล่าวคือเป็นผู้บริสุทธิ์
- ชื่อว่าเป็นพระอรหันต์ เพราะเป็นผู้หักกำสังสารจักร คือ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน กรรม ได้
- ชื่อว่าเป็นพระอรหันต์ เพราะเป็นผู้ควรแนะนำสั่งสอนเขา หรือเป็นผู้ควรรับความเคารพนับถือ
- ชื่อว่าเป็นพระอรหันต์ เพราะเป็นผู้ไม่มีความลับ คือมิได้ทำความเสียหายอันใดที่จะพึงซ่อนเร้น
ปัญหาข้อที่ 10
ถาม จงให้ความหมายของคำต่อไปนี้ ?
- อโหสิกรรม
- กตัตตากรรม
ตอบ
- อโหสิกรรม คือกรรมให้ผลสำเร็จแล้ว เป็นกรรมล่วงคราวแล้ว เลิกให้ผล เปรียบเหมือนพืชสิ้นยางแล้ว เพาะไม่ขึ้น
- กตัตตากรรม คือกรรมสักว่าทำ ได้แก่ กรรมอันทำด้วยไม่จงใจ