ปัญหาข้อที่ 1
ถาม อาทิพรหมจริยกาสิกขา กับ อภิสมาจาริกาสิกขา ต่างกันอย่างไร ?
ตอบ ต่างกันดังนี้ อาทิพรหมจริยกาสิกขา ได้แก่ข้อศึกษาอันเป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์ อันได้แก่พระพุทธบัญญัติที่ทรงตั้งไว้ให้เป็นพุทธอาณา เป็นสิกขาบทอันมาในพระปาติโมกข์ เป็นข้อบังคับโดยตรงที่ภิกษุจะต้อง ประพฤติปฏิบัติโดยเคร่งครัด ส่วนอภิสมาจาริกาสิกขา ได้แก่ข้อศึกษาอันเนื่องด้วยอภิสมาจาร คือมารยาทอันดี ที่ทรงบัญญัติหรืออนุญาตไว้ อันมานอกพระปาติโมกข์ เป็นขนบธรรมเนียมอันดีงามของหมู่คณะที่ควรประพฤติ ฯ
ปัญหาข้อที่ 2
ถาม วินัยกรรม กับ สังฆกรรม มีความหมายต่างกันอย่างไร ? การทำวินัยกรรมนั้น มีจำกัดบุคคลและสถานที่บ้างหรือไม่อย่างไร ?
ตอบ ต่างกันอย่างนี้ กรรมที่ภิกษุแต่ละรูปหรือหลายรูปจะพึงทำตามพระวินัย เช่น พินทุ อธิษฐาน วิกัปจีวร เป็นต้น เรียกว่าวินัยกรรม กรรมที่ภิกษุครบองค์เป็นสงฆ์ มีจำนวนอย่างต่ำตั้งแต่ 4 รูปขึ้นไปจะพึงทำ เช่น อปโลกนกรรม เป็นต้น เรียกว่าสังฆกรรม ฯ
จำกัดบุคคลและสถานที่ไว้ดังนี้
- แสดงอาบัติ ต้องแสดงแก่ผู้เป็นภิกษุด้วยกัน
- อธิษฐาน ต้องทำเอง
- วิกัป ต้องวิกัปแก่สหธรรมิกทั้ง 5 คือ ภิกษุ ภิกษุณี นางสิกขมานา สามเณร สามเณรี รูปใดรูปหนึ่ง
- ห้ามไม่ให้ทำในที่มืด แต่ทำในสีมาหรือนอกสีมาใช้ได้ทั้งนั้น
ปัญหาข้อที่ 3
ถาม ตามนัยแห่งอรรถกถา อาจารย์มีกี่ประเภท ? อะไรบ้าง ? คำขอนิสสัยอาจารย์ว่าอย่างไร ?
ตอบ มี 4 ประเภท ฯ คือ
- ปัพพัชชาจารย์ อาจารย์ในบรรพชา
- อุปสัมปทาจารย์ อาจารย์ในอุปสมบท
- นิสสยาจารย์ อาจารย์ผู้ให้นิสสัย
- อุทเทสาจารย์ อาจารย์ผู้บอกธรรม ฯ
คำขอนิสสัยอาจารย์ว่าดังนี้ อาจริโย เม ภนฺเต โหหิ อายสฺมโต นิสฺสาย วจฺฉามิ ฯ
ปัญหาข้อที่ 4
ถาม กิริยาที่แสดงความอ่อนน้อมต่อกันและกันเป็นความดีของหมู่ แต่ต้องทำให้ถูกต้องตามกาลเทศะ ในข้อนี้ควรงดเว้นในกรณีใดบ้าง ? จงบอกมาสัก 5 ข้อ
ตอบ ได้แก่ในเวลาดังต่อไปนี้ (ตอบเพียง 5 ข้อ)
- ในเวลาประพฤติวุฏฐานวิธี คืออยู่กรรม เพื่อออกจากอาบัติสังฆาทิเสส
- ในเวลาถูกสงฆ์ทำอุกเขปนียกรรม ที่ถูกห้ามสมโภคและสังวาส
- ในเวลาเปลือยกาย
- ในเวลาเข้าบ้านหรือเดินอยู่ตามทาง
- ในเวลาอยู่ในที่มืดที่แลไม่เห็นกัน
- ในเวลาที่ท่านไม่รู้ คือนอนหลับหรือขลุกขลุ่ยอยู่ด้วยธุระอย่างหนึ่ง หรือส่งใจไปในที่อื่น แม้ไหว้ ท่านก็คงไม่ใส่ใจ
- ในเวลาขบฉันอาหาร
- ในเวลาถ่ายอุจจาระ ถ่ายปัสสาวะ ฯ
ปัญหาข้อที่ 5
ถาม ในวัดหนึ่ง ถ้ามีภิกษุจำพรรษา 4 รูป 3 รูป 2 รูป หรือ 1 รูป เมื่อถึงวันอุโบสถพึงปฏิบัติอย่างไร ?
ตอบ
- 4 รูป พึงประชุมกันในโรงอุโบสถสวดปาติโมกข์
- 3 รูป พึงประชุมกันทำปาริสุทธิอุโบสถ ดังนี้ ประชุมกันในโรงอุโบสถแล้วรูปหนึ่งสวดประกาศญัตติ จบแล้วแต่ละรูปพึงบอกความบริสุทธิ์ของตน
- 2 รูป ไม่ต้องตั้งญัตติ พึงบอกความบริสุทธิ์แก่กันและกัน
- 1 รูป พึงอธิษฐาน ฯ
ปัญหาข้อที่ 6
ถาม อุปปถกิริยา คืออะไร ? ความประพฤติเช่นไรจัดเข้าใน อนาจาร ปาปสมาจาร อเนสนา ?
ตอบ
- อุปปถกิริยา คือ การทำนอกรีตนอกรอยของสมณะ ฯ
- ความประพฤติไม่ดีไม่งาม และเล่นมีประการต่าง ๆ จัดเข้าในอนาจาร
- ความประพฤติเลวทราม จัดเข้าในปาปสมาจาร
- ความเลี้ยงชีพไม่สมควร จัดเข้าในอเนสนา ฯ
ปัญหาข้อที่ 7
ถาม ภิกษุผู้ได้ชื่อว่าโคจรสัมปันโนผู้ถึงพร้อมด้วยโคจรเพราะปฏิบัติอย่างไร ?
ตอบ เพราะเว้นอโคจร 6 จะไปหาใครหรือจะไปที่ไหน เลือกบุคคล เลือกสถานที่ อันสมควร ไปเป็นกิจลักษณะในเวลาอันควร ไม่ไปพร่ำเพรื่อ กลับในเวลา ประพฤติตนไม่ให้เป็นที่รังเกียจของเพื่อนสหธรรมิกเพราะการไปเที่ยว ฯ
ปัญหาข้อที่ 8
ถาม ยาวกาลิกกับยาวชีวิก ได้แก่กาลิกเช่นไร ? กาลิกระคนกันมีกฎเกณฑ์กำหนดอายุไว้อย่างไร ? จงยกตัวอย่าง
ตอบ
- ยาวกาลิก ได้แก่ ของที่ให้บริโภคได้ชั่วคราว ตั้งแต่เช้าถึงเที่ยง
- ยาวชีวิก ได้แก่ ของที่ให้บริโภคได้เสมอไป ไม่มีจำกัดกาล ฯ
- กาลิกระคนกัน มีกฎเกณฑ์กำหนดอายุตามกาลิกที่มีอายุน้อยที่สุด ฯ ตัวอย่างเช่น ยาผง เป็นยาวชีวิก คลุกกับน้ำผึ้งที่เป็นสัตตาหกาลิก ต้องถืออายุ ๗ วัน เป็นเกณฑ์
ปัญหาข้อที่ 9
ถาม คำว่า อันโตวุฏฐะ อันโตปักกะ สามปักกะ หมายถึงอะไร ?
ตอบ
- อันโตวุฏฐะ หมายถึง ยาวกาลิกที่ภิกษุเก็บไว้ในที่อยู่ของตน ฯ
- อันโตปักกะ หมายถึง ยาวกาลิกที่ภิกษุหุงต้มภายใน (ที่อยู่ของต) ฯ
- สามปักกะ หมายถึง ยาวกาลิกที่ภิกษุทำให้สุกเอง ฯ
ปัญหาข้อที่ 10
ถาม ภิกษุจะฉันสิ่งใด ๆ ต้องรับประเคนก่อน มีกรณียกเว้นเป็นพิเศษอะไรบ้าง ที่ไม่ต้องรับประเคนก่อนก็ฉันได้ ?
ตอบ ยกเว้นเป็นพิเศษเฉพาะภิกษุอาพาธถูกงูกัด ให้ฉันยามหาวิกัฏ 4 คือ มูตร คูถ เถ้า และดินได้ ฯ