ปัญหาข้อที่ 1
ถาม มูลกัมมัฏฐาน คืออะไร ? เจริญอย่างไรเป็นอารมณ์ของสมถะ ? เจริญอย่างไรเป็นอารมณ์ของวิปัสสนา ?
ตอบ
มูลกัมมัฏฐาน คือ กัมมัฏฐานเดิม ได้แก่ เกสา โลมา นขา ทันตา ตโจ ที่พระอุปัชฌาย์สอนก่อนบรรพชา ฯ
ถ้าเพ่งกำหนดให้จิตสงบด้วยภาวนา จัดเป็นอารมณ์ของสมถะ ถ้ายกขึ้นพิจารณาแยกออกเป็นส่วนๆ ให้เห็นตามความเป็นจริงโดยสามัญลักษณะ จัดเป็นอารมณ์ของวิปัสสนา ฯ
ปัญหาข้อที่ 2
ถาม ปฏิสันถาร คืออะไร ? จงแสดงวิธีปฏิสันถารตามความรู้ที่ได้ศึกษามา ?
ตอบ
ปฏิสันถาร คือ การต้อนรับผู้มาเยือนด้วยการพูดจาปราศรัย หรือด้วยการรับรองด้วยของ ต้อนรับตามสมควรด้วยไมตรีจิต ฯ
ปฏิสันถารที่ได้ศึกษามามี 2 อย่าง คือ
- อามิสปฏิสันถาร ปฏิสันถารด้วยสิ่งของ ได้แก่การจัดหาวัตถุสิ่งของต้อนรับ เช่น ข้าว น้ำ หรือที่พัก เป็นต้น
- ธัมมปฏิสันถาร ปฏิสันถารด้วยธรรม ได้แก่การแสดงการต้อนรับตามความเหมาะสมแก่ผู้มาเยือน หรือการให้คำแนะนำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ เป็นต้น ฯ
ปัญหาข้อที่ 3
ถาม อกุศลวิตก 3 มีโทษอย่างไร ? แก้ด้วยวิธีอย่างไร ?
ตอบ
- กามวิตก ทำใจให้เศร้าหมอง เป็นเหตุให้มัวเมาติดอยู่ในกามสมบัติ
- พยาบาทวิตก ทำให้เดือดร้อนกระวนกระวายใจ คิดทำร้ายผู้อื่น
- วิหิงสาวิตก ย่อมครอบงำจิต ให้คิดเบียดเบียนผู้อื่นโดยเห็นแก่ประโยชน์สุขส่วนตัว ฯ
แก้อย่างนี้
- กามวิตก แก้ด้วยการเจริญกายคตาสติและอสุภกัมมัฏฐาน
- พยาบาทวิตก แก้ด้วยการเจริญเมตตาพรหมวิหาร
- วิหิงสาวิตก แก้ด้วยการเจริญกรุณาพรหมวิหารและโยนิโสมนสิการ ฯ
ปัญหาข้อที่ 4
ถาม พรหมวิหารกับอัปปมัญญา ต่างกันอย่างไร ? อย่างไหนเป็นปฏิปทาโดยตรงของภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ ?
ตอบ ต่างกันโดยวิธีแผ่ คือ แผ่โดยเจาะจงตัวก็ดี โดยไม่เจาะจงตัวก็ดี แต่ยังจำกัดหมู่นั้นหมู่นี้จัดเป็นพรหมวิหาร ถ้าแผ่โดยไม่เจาะจงไม่จำกัด จัดเป็นอัปปมัญญา ฯ อัปปมัญญาเป็นปฏิปทาของภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ ฯ
ปัญหาข้อที่ 5
ถาม ทักขิณา คืออะไร ? ทักขิณานั้น จะบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ มีอะไรเป็นเครื่องหมาย ?
ตอบ ทักขิณา คือ ของทำบุญ ฯ มีกัลยาณธรรมของทายก หรือปฏิคาหกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เป็นเครื่องหมายให้รู้ว่า บริสุทธิ์ และมีความเป็นผู้ทุศีลและอธรรม ของทายกหรือปฏิคาหกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นเครื่องหมายให้รู้ว่า ไม่บริสุทธิ์ ฯ
ปัญหาข้อที่ 6
ถาม มาร คืออะไร ? เฉพาะอภิสังขารมาร หมายถึงอะไร ?
ตอบ มาร คือ สิ่งที่ล้างผลาญทำลายความดี ชักนำให้ทำบาปกรรม ปิดกั้นไม่ให้ทำความดี จนถึงปิดกั้นไม่ให้เข้าใจสรรพสิ่งตามความเป็นจริง ฯ อภิสังขารมาร หมายถึง อกุศลกรรม ฯ
ปัญหาข้อที่ 7
ถาม พระธรรมคุณบทใด มีความหมายตรงกับคำว่า “ท้าให้มาพิสูจน์ได้” ? พระธรรมคุณบทนั้น มีอธิบายว่าอย่างไร ?
ตอบ บทว่า เอหิปัสสิโก ฯ มีอธิบายว่า พระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสามารถที่จะให้พิสูจน์ได้ทุกเวลาและสามารถนำไปประพฤติในชีวิตประจำวันเพื่อประโยชน์สุขได้ ฯ
ปัญหาข้อที่ 8
ถาม บารมี คืออะไร ? อธิษฐานบารมี คือการทำอย่างไร ?
ตอบ ปฏิปทาอันยิ่งยวด หรือคุณธรรมที่ประพฤติอย่างยิ่งยวด ได้แก่ ความดีที่บำเพ็ญอย่างพิเศษ เพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุด ฯ คือความตั้งใจมั่นตัดสินใจเด็ดเดี่ยว วางจุดหมายแห่งการกระทำของตนไว้แน่นอนและดำเนินตามนั้นอย่างแน่วแน่ ฯ
ปัญหาข้อที่ 9
ถาม คำต่อไปนี้มีความหมายอย่างไร ?
- ชนกกรรม
- อุปัตถัมภกกรรม
- ทิฏฐธัมมเวทนียกรรม
- อุปปัชชเวทนียกรรม
- กตัตตากรรม
ตอบ
- ชนกกรรม คือ กรรมแต่งให้เกิด
- อุปัตถัมภกกรรม คือ กรรมสนับสนุน
- ทิฏฐธัมมเวทนียกรรม คือ กรรมให้ผลในภพนี้
- อุปปัชชเวทนียกรรม คือ กรรมให้ผลในภพหน้า
- กตัตตากรรม คือ กรรมสักว่าทำ คือกรรมที่ทำด้วยไม่จงใจ ฯ
ปัญหาข้อที่ 10
ถาม ธุดงค์ ท่านบัญญัติไว้เพื่อประโยชน์อะไร ? อารัญญิกังคธุดงค์ คือการถือปฏิบัติอย่างไร ?
ตอบ
ธุดงค์ ท่านบัญญัติไว้เพื่อเป็นอุบายขัดเกลากิเลส และเป็นไปเพื่อความมักน้อยสันโดษ ฯ
อารัญญิกังคธุดงค์ คือ การถืออยู่ป่าเป็นวัตร หมายถึงการพักอาศัยปฏิบัติธรรมอยู่ในป่า หรือบริเวณป่าและจะต้องห่างจากบ้านคนอย่างน้อย 25 เส้น หรือ 500 ชั่วธนู ฯ