ปัญหาข้อที่ 1
ถาม ปฏิสันถาร คืออะไร ? มีอะไรบ้าง ?
ตอบ คือการต้อนรับแขกผู้มาถึงถิ่น ฯ มี 2 อย่าง
- อามิสปฏิสันถาร ต้อนรับด้วยสิ่งของ
- ธัมมปฏิสันถาร ต้อนรับโดยธรรม ฯ
ถาม มีประโยชน์แก่ผู้ทำอย่างไรบ้าง ?
ตอบ อย่างนี้ คือ
- เป็นอุบายสร้างความสามัคคีและยึดเหนี่ยวน้ำใจกัน
- เป็นการรักษาไมตรีจิตระหว่างกันและกันให้มั่นคงยิ่งขึ้น ฯ
ปัญหาข้อที่ 2
ถาม วิมุตติคืออะไร ? วิมุตติ 2 อย่าง มีอะไรบ้าง ?
ตอบ คือความหลุดพ้น มี
- เจโตวิมุตติ ความหลุดพ้นด้วยอำนาจแห่งใจ
- ปัญญาวิมุตติ ความหลุดพ้นด้วยอำนาจแห่งปัญญา ฯ
ถาม วิมุตติ 2 กับวิมุตติ 5 จัดเป็นโลกิยะและโลกุตตระอย่างไร ?
ตอบ วิมุตติ 2 เป็นโลกุตตระอย่างเดียว ส่วนวิมุตติ 5 เป็นได้ทั้งโลกิยะและโลกุตตระ ฯ
ปัญหาข้อที่ 3
ถาม ความเห็นว่า “ถึงคราวเคราะห์ดีก็ดีเอง ถึงคราวเคราะห์ร้ายก็ร้ายเอง” อย่างนี้เป็นทิฏฐิอะไร ? จงอธิบาย
ตอบ เป็นอเหตุกทิฏฐิ คือเห็นว่า สิ่งทั้งหลายไม่มีเหตุปัจจัย คนเราจะได้ดีหรือได้ร้ายตามคราวเคราะห์ ถึงคราวจะดีก็ดีเอง ถึงคราวจะร้ายก็ร้ายเอง ไม่มีเหตุปัจจัยอื่น ฯ
ถาม คติทางพระพุทธศาสนาต่างจากความเห็นนี้อย่างไร ?
ตอบ พระพุทธศาสนาถือว่าสังขตธรรมทั้งปวงเกิดแต่เหตุ ฯ
ปัญหาข้อที่ 4
ถาม อาหารของสัตว์นรก และเปรต คืออะไร ?
ตอบ อาหารของสัตว์นรกคือกรรม ส่วนของเปรตคือกรรมและผลทานที่ญาติมิตรทำบุญอุทิศให้ ฯ
ถาม คนจำพวกไหนเปรียบเหมือนอสุรกาย ในอบาย 4 ?
ตอบ คนลอบทำโจรกรรม หลอกลวงฉกชิงเอาทรัพย์ของผู้อื่น เปรียบเหมือนอสุรกาย ฯ
ปัญหาข้อที่ 5
ถาม กุลมัจฉริยะ ตระหนี่ตระกูล คืออย่างไร ?
ตอบ คือหวงแหนตระกูลไม่ยอมให้ตระกูลอื่นมาเกี่ยวดองด้วย ถ้าเป็นบรรพชิตก็หวงอุปัฏฐาก ไม่พอใจให้ไปบำรุงภิกษุอื่น ฯ
ถาม ครูสอนศิษย์ ปิดบังอำพรางความรู้ ไม่บอกให้สิ้นเชิง จัดเข้าในมัจฉริยะข้อไหน ?
ตอบ ธัมมมัจฉริยะ
ปัญหาข้อที่ 6
ถาม ญาณ 3 ที่เป็นไปในจตุราริยสัจ มีอะไรบ้าง ?
ตอบ
- สัจจญาณ ปรีชาหยั่งรู้อริยสัจ
- กิจจญาณ ปรีชาหยั่งรู้กิจอันควรทำ
- กตญาณ ปรีชาหยั่งรู้กิจอันทำแล้ว ฯ
ถาม ญาณ 3 ที่เป็นไปในทุกขสมุทัยมีอธิบายอย่างไร ?
ตอบ
- ปรีชาหยั่งรู้ว่า นี้ทุกขสมุทัย จัดเป็นสัจจญาณ
- ปรีชาหยั่งรู้ว่า ทุกขสมุทัย เป็นสภาพที่ควรละเสีย จัดเป็นกิจจญาณ
- ปรีชาหยั่งรู้ว่า ทุกขสมุทัยที่ควรละๆ ได้แล้ว จัดเป็นกตญาณ ฯ
ปัญหาข้อที่ 7
ถาม วิญญาณฐิติต่างจากสัตตาวาสอย่างไร ?
ตอบ ต่างกันอย่างนี้ ภูมิเป็นที่ตั้งแห่งวิญญาณเรียกว่า วิญญาณฐิติ ภพเป็นที่อยู่แห่งสัตว์ เรียกว่า สัตตาวาส ฯ
ถาม สัญญาเวทยิตนิโรธกับนิโรธสมาบัติต่างกันหรือเหมือนกัน ?
ตอบ ต่างกันโดยพยัญชนะ โดยอรรถเป็นอย่างเดียวกัน คือท่านผู้เข้าถึงสมาบัติชนิดนี้แล้วย่อมไม่มีสัญญาและเวทนา ฯ
ปัญหาข้อที่ 8
ถาม ในพระพุทธคุณ บทว่า อรหํ ที่แปลว่า เป็นผู้หักกำแห่งสังสารจักรนั้น กำแห่งสังสารจักร ได้แก่อะไร ?
ตอบ ได้แก่ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน และกรรม ฯ
ถาม พระพุทธคุณต่อไปนี้มีคำแปลว่าอย่างไร ?
- สุคโต
- อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ
ตอบ
- สุคโต แปลว่า เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว
- อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ แปลว่า เป็นสารถีแห่งบุรุษพึงฝึกได้ ไม่มีบุรุษอื่นยิ่งไปกว่า ฯ
ปัญหาข้อที่ 9
ถาม ในกรรม 12 กรรมที่ให้ผลตามลำดับ ได้แก่กรรมอะไรบ้าง ?
ตอบ ได้แก่
- ครุกรรม กรรมหนัก
- พหุลกรรม หรือ อาจิณณกรรม กรรมชิน
- อาสันนกรรม กรรมเมื่อจวนเจียน
- กตัตตากรรม กรรมสักว่าทำ ฯ
ถาม อุปฆาตกกรรม มีอธิบายอย่างไร ?
ตอบ อุปฆาตกกรรมเป็นกรรมที่แรง ซึ่งตรงกันข้ามกับชนกกรรม และอุปัตถัมภกกรรม เข้าตัดรอนการให้ผลของกรรมสองอย่างนั้นให้ขาดไปเสียทีเดียว เช่น เกิดในตระกูลสูงมั่งคั่ง แต่อายุสั้น เป็นต้น ฯ
ปัญหาข้อที่ 10
ถาม ในธุดงค์ 13 นั้น ธุดงค์ที่ถือได้เฉพาะกาลมีอะไรบ้าง ?
ตอบ
- รุกขมูลิกังคะ ถืออยู่โคนไม้เป็นวัตร
- อัพโภกาสิกังคะ ถืออยู่ในที่แจ้งๆ เป็นวัตร ฯ
ถาม การถือธุดงค์ ย่อมสำเร็จด้วยอาการอย่างไร ?
ตอบ สำเร็จด้วยการสมาทาน คือด้วยอธิษฐานใจหรือแม้ด้วยเปล่งวาจา ฯ