๑. เครื่องควบคุมความประพฤติทางกาย วาจา ให้เรียบร้อยคือ….. ?
- ทาน
- ศีล
- สมาธิ
- ปัญญา
๒. เป้าหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา ได้แก่….. ?
- มนุษยสมบัติ
- สวรรคสมบัติ
- สมาบัติ ๘
- มรรค ผล นิพพาน
๓. พาณิชสองพี่น้อง เข้าถึงพระรัตนตรัยด้วยวิธีใด ?
- สมาทาน
- มอบตนเป็นสาวก
- ถวายชีวิตในพระรัตนตรัย
- เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา
๔. สรณคมน์ หมายเอาการถึงสรณะในข้อใด ?
- พระพุทธเจ้า
- พระธรรม
- พระสงฆ์
- ทั้ง ๓ ข้อ
๕. การขาดสรณคมน์ไม่มีโทษ เพราะ….. ?
- ความตาย
- ทำร้ายพระศาสดา
- ไปนับถือศาสดาอื่น
- ไม่มีข้อถูก
๖. ผู้ใด มีสรณคมน์เศร้าหมอง ?
- ดำไม่ถูกกับพระบางรูป
- ปีเตอร์สมาทานศีลไม่ชัด
- พระเท่งไปเที่ยวประเทศอิรัก
- ชัดสงสัยว่าพระพุทธเจ้ามีจริงหรือ
๗. อุโบสถชนิดใด รักษาตลอดวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ?
- ปกติอุโบสถ
- ปฏิชาครอุโบสถ
- ปาฏิหาริยอุโบสถ
- อริยอุโบสถ
๘. ศีลข้อใด สนับสนุนให้คนงามตามธรรมชาติ ?
- ศีลข้อ ๕
- ศีลข้อ ๖
- ศีลข้อ ๗
- ศีลข้อ ๘
๙. เมื่อพระสงฆ์กล่าวว่า “ติสรณคมนํ นิฏฺฐิตํ” พึงรับพร้อมกันว่า…. ?
- สาธุ ภนฺเต
- สมฺปฏิจฺฉามิ
- อาม ภนฺเต
- สาธุ อนุโมทามิ
๑๐. ผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ปฏิบัติอย่างไรถูกต้องที่สุด ?
- ทำพิธีรับขันธ์ห้า
- ปฏิบัติเพื่อละกิเลส
- ทำบุญเพื่อเสริมดวงชะตา
- หาเช่าบูชาพระเครื่องรุ่นนิยม
๑๑. คำว่า “พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ” ใครกล่าวครั้งแรก ?
- อุปกาชีวก
- ตปุสสะ ภัลลิกะ
- ท้าวมหาพรหม
- พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
๑๒. จากคำถามข้อที่ ๑๑ กล่าวไว้เพื่อจุดประสงค์ใด ?
- เพื่อเป็นวิธีบวช
- เพื่อสอนชาวบ้าน
- เพื่อเจริญอนุสสติ
- เพื่อป้องกันอมนุษย์
๑๓. การขาดสรณคมน์ อาจเกิดขึ้นได้กับบุคคลใด ?
- โสดาบันบุคคล
- สกทาคามีบุคคล
- อนาคามีบุคคล
- บุคคลทั่วไป
๑๔. ข้อใด ไม่จัดอยู่ในสรณะทั้ง ๓ ?
- พระสมณโคดม
- พระโพธิสัตว์
- พระกัสสปเถระ
- พระขีณาสพ
๑๕. “ผู้นั่งใกล้พระรัตนตรัย” ตามความหมายที่ถูกต้องคือข้อใด ?
- รักษาศีล ๕ เป็นประจำ
- เข้าไปหายามมีภัยเกิดขึ้น
- เป็นญาติกับพระภิกษุสงฆ์
- เคยอุปสมบทเป็นพระภิกษุ
๑๖. ผู้ใด เป็นตัวอย่างของผู้ถึงพระรัตนตรัยอย่างมั่นคง ?
- ตปุสสะและภัลลิกะ
- อุตรมานพ
- สุปปพุทธกุฏฐิ
- พรหมายุพราหมณ์
๑๗. พุทธะ แปลว่า ผู้รู้ หมายถึง ?
- รู้ตามผู้อื่น
- รับความรู้จากพระเจ้า
- คิดเอาเอง
- ตรัสรู้และสอนให้ผู้อื่นรู้
๑๘. พระสงฆ์ได้นามว่าสังฆะ เพราะ….. ?
- มีทิฏฐิและศีลเสมอกัน
- อาศัยอยู่ในวัดเดียวกัน
- โกนผมห่มจีวรเหมือนกัน
- นับถือพระพุทธศาสนาเหมือนกัน
๑๙. ผู้เปล่งวาจาว่า “ข้าพเจ้านอบน้อมพระผู้มีพระภาคเจ้า” ชื่อว่าถึงสรณะด้วยวิธีไหน ?
- ปฏิบัติหน้าที่พุทธบริษัท
- ยอมนอบน้อม
- มอบตนเป็นสาวก
- การสมาทาน
๒๐. สรณคมน์ของผู้ใด ไม่มีการขาด ?
- ภิกษุ
- ภิกษุณี
- อุบาสกอุบาสิกา
- พระอริยบุคคล
๒๑. คำว่า “สรณะ” แปลว่า ที่พึ่ง หมายถึงอะไร ?
- มีความขลัง
- กำจัดทุกข์ได้
- ดลบันดาลอะไรก็ได้
- มีความศักดิ์สิทธิ์
๒๒. การถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ หมายถึงอะไร ?
- การขอพร
- การบนบาน
- การขอความคุ้มครอง
- การปฏิบัติตามคำสอน
๒๓. ข้อใด เป็นเหตุให้สรณคมน์เศร้าหมอง ?
- ไม่รู้จักพระรัตนตรัย
- เข้าใจผิดในพระรัตนตรัย
- ไม่เอื้อเฟื้อพระรัตนตรัย
- ถูกทุกข้อ
๒๔. ในคังคมาลชาดก พระโพธิสัตว์ชื่อว่าไม่ได้สมาทานรักษาอุโบสถ เพราะสาเหตุใด ?
- รับประทานอาหารเย็น
- ไม่รับประทานอาหาร
- ไม่ได้รับอุโบสถศีล
- ไม่ได้อธิษฐานอุโบสถ
๒๕. อุโบสถใด ไม่ประกอบด้วยสรณคมน์และองค์ ๘ ?
- อุโบสถนอกพุทธกาล
- อุโบสถสมัยพุทธกาล
- อุโบสถหลังพุทธกาล
- อุโบสถในปัจจุบัน
๒๖. ปกติอุโบสถนั้นกำหนดรักษาเดือนละ ๔ วัน ยกเว้นวันใด ?
- วันขึ้น ๑๔ ค่ำ
- วันแรม ๘ ค่ำ
- วันขึ้น ๑๕ ค่ำ
- วันแรม ๑๔ ค่ำ
๒๗. ข้อใด ไม่ถือว่าเป็นการล่วงละเมิดศีลอุโบสถ ?
- ร้องเพลงชาติ ในเวลา ๘ นาฬิกา
- เดินเหยียบมดตาย โดยไม่รู้ตัว
- ทานยาดองเหล้า เพื่อแก้ปวดเมื่อย
- ทานข้าวหลังเที่ยง เพราะต้องกินยา
๒๘. การรักษาอุโบสถประเภทใด ได้อานิสงส์มากที่สุด ?
- ปฏิชาครอุโบสถ
- ปาฏิหาริยอุโบสถ
- โคปาลกอุโบสถ
- อริยอุโบสถ
๒๙. การสมาทานรักษาศีลอุโบสถนั้น เหมาะแก่ใคร ?
- คนสูงอายุ
- คนทำงาน
- คนวัยรุ่น
- ถูกทุกข้อ
๓๐. สถานที่ใด สามารถอยู่รักษาอุโบสถศีลได้ ?
- วัดใกล้บ้าน
- สวนสาธารณะ
- ป่าช้า
- ถูกทุกข้อ
๓๑. การกระทำใด ทำให้ศีลข้อที่ ๗ ขาด ?
- ฟังละครวิทยุ
- แต่งหน้าทาปาก
- ถูกทั้ง 1 และ 2
- นอนบนที่นอนสูง
๓๒. ในเรื่องปัญจอุโบสถ แสดงให้เห็นถึงข้อใด ?
- ควรแก้ทุกข์ด้วยศีลธรรม
- การประพฤติธรรมทำให้มีอายุยืน
- โทษที่เกิดจากการล่วงละเมิดอุโบสถ
- ปาฏิหาริย์ที่เกิดจากการรักษาอุโบสถ
๓๓. ความเชื่อใด ไม่ใช่ความเชื่อของผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ?
- ชาติหน้ามีจริง
- ผลของกรรมมีจริง
- ลางดี ลางร้าย บอกเหตุได้จริง
- การประพฤติธรรมทำให้พ้นทุกข์ได้จริง
๓๔. เมื่อรักษาอุโบสถศีลแล้ว การรักษานั้นจะสิ้นสุดได้เมื่อใด ?
- เมื่อพ้นกำหนดเวลา
- เมื่อลาศีลกับพระภิกษุ
- เมื่อตั้งเจตนาเลิกรักษา
- เมื่อเปล่งวาจาเลิกรักษา
๓๕. ขณะที่รักษาอุโบสถ หากเผลอล่วงละเมิดศีล ควรทำอย่างไร ?
- ลาศีลกลับบ้าน
- พยายามสำรวมระวังต่อไป
- ทำบุญสะเดาะเคราะห์
- อยู่เฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไร
๓๖. คำกล่าวขึ้นต้นว่า “อชฺช โภนฺโต ปกฺขสฺส อฏฺฐมีทิวโส….” เป็นคำกล่าวของข้อใด ?
- คำอาราธนาอุโบสถศีล
- คำประกาศอุโบสถ
- คำบูชาพระรัตนตรัย
- คำรับสรณคมน์
๓๗. ข้อใด หมายถึงการรักษาศีล ?
- การขอศีล
- การรับศีล
- การสมาทานศีล
- การไม่ล่วงละเมิดศีล
๓๘. ขั้นตอนใด ต้องทำก่อนประกาศอุโบสถ ?
- อาราธนาศีล
- บูชาพระรัตนตรัย
- สมาทานศีล
- รับสรณคมน์
๓๙. การเข้าวัดปฏิบัติธรรม ข้อไหนถูกต้อง ?
- เพื่อทำพิธีตัดกรรม
- เพื่อเสริมดวงชะตา
- เพื่อหาแสวงหาโชคลาภ
- เพื่อเจริญภาวนา
๔๐. อุโบสถก่อนพุทธกาล หมายถึง ?
- การสมาทานองค์ ๘
- การบำเพ็ญตบะบูชาไฟ
- การรับประทานแต่ผลไม้
- การอดอาหารในวันที่กำหนด
๔๑. อุโบสถกรรมครึ่งเดียว หมายถึง ?
- รักษาศีล ๔ ข้อ
- รักษาศีลครึ่งวัน
- รักษาศีล ๓ วัน
- รักษาศีลบ้างไม่รักษาบ้าง
๔๒. ความมุ่งหมายของการเข้าจำอุโบสถ คือข้อใด ?
- หยุดพักการงาน
- ขัดเกลากิเลส
- สงบสติอารมณ์
- ถูกทุกข้อ
๔๓. วิธีรักษาอุโบสถก่อนพุทธกาลทำอย่างไร ?
- เปล่งวาจาสมาทาน
- อธิษฐานอุโบสถเอง
- รับโอวาท ๓ ข้อ
- รับจากพระปัจเจกพุทธเจ้า
๔๔. เมื่อรักษาอุโบสถศีลข้อที่ ๗ ห้ามกระทำสิ่งใด ?
- ร้องเพลง
- แต่งหน้าทาปาก
- ฟ้อนรำ
- ถูกทุกข้อ
๔๕. สมาทานอุโบสถศีลโดยวิธีใด จึงถูกต้อง ?
- เปล่งวาจาอธิษฐานเอง
- สมาทานจากพระภิกษุ
- สมาทานจากคนที่รู้และเข้าใจ
- ถูกทุกข้อ
๔๖ ข้อใด จำเป็นสำหรับผู้รักษาอุโบสถศีล ?
- ต้องไปรักษาศีลที่วัด
- ต้องสมาทานศีลกับพระ
- ต้องเปล่งวาจาสมาทาน
- ต้องสมาทานศีลทีละข้อ
๔๗. ความหมายแห่งการปฏิบัติธรรมที่แท้จริง คือข้อใด ?
- ฝึกใจให้ผ่องใส
- เข้าป่าหาผู้วิเศษ
- ทิ้งบุตรธิดาได้
- ทิ้งมารดาบิดาได้
๔๘. ศีลข้อใด บัญญัติไว้สำหรับผู้รักษาอุโบสถเท่านั้น ?
- เว้นปาณาติบาต
- เว้นอทินนาทาน
- เว้นอพรหมจรรย์
- เว้นมุสาวาท
๔๙. ศีลข้อใด ถือปฏิบัติได้ทั้งคนทั่วไปและผู้รักษาอุโบสถ ?
- เว้นปาณาติบาต
- เว้นอพรหมจรรย์
- เว้นวิกาลโภชนา
- เว้นการฟ้อนรำขับร้อง
๕๐. เพราะเหตุใด จึงห้ามผู้รักษาอุโบสถ ดูการละเล่นต่างๆ ?
- เสียเวลาทำกิน
- เสียสุขภาพจิต
- เสียทรัพย์
- เป็นข้าศึกแก่กุศล