ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม  ธรรมศึกษาชั้นตรี พ.ศ. ๒๕๔๗

๑. ธรรมข้อใด อุดหนุนมิให้คนทำอะไรผิดพลาด ?

  1. หิริ โอตตัปปะ
  2. ขันติ โสรัจจะ
  3. กตัญญูกตเวที
  4. สติ สัมปชัญญะ

๒. ข้อใด เป็นความหมายของสัมปชัญญะ ?

  1. ความระลึกได้
  2. ความรู้ตัว
  3. ความรอบรู้
  4. ความรู้จริง

๓. ระลึกได้ว่าวันนี้ต้องไปทำงาน เป็นลักษณะของธรรมข้อใด ?

  1. หิริ
  2. โอตตัปปะ
  3. สติ
  4. สัมปชัญญะ

๔. ธรรมที่เป็นข้าศึกของสติ ได้แก่อะไร ?

  1. ความประมาท
  2. ความโกรธ
  3. ความละอาย
  4. ความโลภ

๕. ผู้มีหิริอยู่ในใจ ชื่อว่าไม่ทำความชั่ว เพราะสาเหตุใด ?

  1. กลัวคนเห็น
  2. กลัวติดคุก
  3. ละอายคนอื่น
  4. ละอายใจ

๖. ธรรมสำหรับทำคนให้เป็นเทวดา คืออะไร ?

  1. ขันติ โสรัจจะ
  2. หิริ โอตตัปปะ
  3. เมตตา กรุณา
  4. อโลภะ อโมหะ

๗. ธรรมข้อใด ทำคนให้มีความงามโดยมิต้องเสริมแต่ง ?

  1. ขันติ โสรัจจะ
  2. สติ สัมปชัญญะ
  3. หิริ โอตตัปปะ
  4. เมตตา กรุณา

๘. จะรู้ได้อย่างไรว่า คนที่เราคบด้วยเป็นคนดี ?

  1. ตักบาตรประจำ
  2. มีมนุษย์สัมพันธ์
  3. ขยันทำการงาน
  4. รู้จักทดแทนคุณ

๙. กตัญญูกตเวที ชื่อว่าหาได้ยาก เพราะถูกอะไรครอบงำ ?

  1. อบายมุข
  2. นิวรณ์
  3. ความตระหนี่
  4. ความโกรธ

๑๐. องค์ประกอบสำคัญของพระพุทธศาสนา คืออะไร ?

  1. พระพุทธเจ้า
  2. พระธรรม
  3. พระสงฆ์
  4. พระรัตนตรัย

๑๑. คำว่า “ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ” ตรงกับข้อใด ?

  1. พระพุทธเจ้า
  2. พระธรรม
  3. พระสงฆ์
  4. พระสาวก

๑๒. พระบริสุทธิคุณ เป็นคุณของข้อใด ?

  1. พระสงฆ์
  2. พระธรรม
  3. พระอรหันต์
  4. พระพุทธเจ้า

๑๓. การนับถือพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นที่พึ่งที่ระลึก เรียกว่าอะไร ?

  1. ไตรรัตน์
  2. ไตรปิฎก
  3. ไตรสิกขา
  4. ไตรสรณคมน์

๑๔. พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ได้ชื่อว่ารัตนะ เพราะเหตุใด ?

  1. มีราคาดี
  2. มีค่าน่ายินดี
  3. มีความขลังดี
  4. มีคนรู้จักดี

๑๕. ผู้ปฏิบัติชอบตามพระธรรมวินัยแล้วสอนผู้อื่น ตรงกับข้อใด ?

  1. พุทธบริษัท
  2. พระอรหันต์
  3. ภิกษุณี
  4. พระสงฆ์

๑๖. คำสอนที่เป็นโอวาทปาฏิโมกข์ ตรงกับข้อใด ?

  1. ทาน ศีล ภาวนา
  2. ศีล สมาธิ ปัญญา
  3. อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
  4. ไม่ทำชั่ว ทำดี ทำใจให้ผ่องใส

๑๗. คนต้มตุ๋นหลอกลวง ชื่อว่าประพฤติวจีทุจริตข้อใด ?

  1. พูดเท็จ
  2. พูดส่อเสียด
  3. พูดคำหยาบ
  4. พูดเพ้อเจ้อ

๑๘. วจีทุจริตข้อใด เป็นเหตุให้หมู่คณะแตกร้าว ?

  1. พูดเท็จ
  2. พูดคำหยาบ
  3. พูดเพ้อเจ้อ
  4. พูดส่อเสียด

๑๙. “ ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์ มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต ” ตรงกับวจีสุจริตข้อใด ?

  1. ไม่พูดเท็จ
  2. ไม่พูดส่อเสียด
  3. ไม่พูดคำหยาบ
  4. ไม่พูดเพ้อเจ้อ

๒๐. การกระทำในข้อใด จัดเป็นมโนสุจริต ?

  1. คิดดี
  2. ทำดี
  3. พูดดี
  4. อวดดี

๒๑. กุศลมูลข้อใด เป็นเหตุให้คนบำเพ็ญทานเพื่อกำจัดความโลภ ?

  1. อโลภะ
  2. อโทสะ
  3. อโมหะ
  4. ถูกทุกข้อ

๒๒. คนไม่รู้จักอิ่ม ไม่รู้จักพอ ไม่รู้จักเต็ม ด้วยปัจจัย ๔ จัดเป็นคนเช่นไร ?

  1. คนมีมานะ
  2. คนมีโลภะ
  3. คนมีโทสะ
  4. คนมีโมหะ

๒๓. คนไม่รู้เหตุ ไม่รู้ผล ไม่รู้ดี ไม่รู้ชั่ว จัดเป็นคนเช่นไร ?

  1. คนมีโมหะ
  2. คนมีโทสะ
  3. คนมีฉันทะ
  4. คนมีโลภะ

๒๔. ข้อใด กล่าวไม่ถูกต้อง ?

  1. ภาวนากำจัดโมหะ
  2. ศีลกำจัดความหลง
  3. ศีลกำจัดความโกรธ
  4. ทานกำจัดความโลภ

๒๕. ผู้มีเมตตาดี ไม่มีเวรภัยแก่ใคร ไม่มักโกรธ เพราะทำบุญอะไร ?

  1. ให้ทาน
  2. รักษาศีล
  3. เจริญภาวนา
  4. วางอุเบกขา

๒๖. “ คบคนดี ฟังวจีท่าน คิดอ่านปัญหา ค้นคว้าปฏิบัติ ” คือข้อใด ?

  1. วุฒิ ๔
  2. จักร ๔
  3. อิทธิบาท ๔
  4. ปธาน ๔

๒๗.อกุศลธรรมใด เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ทำให้เสียความยุติธรรม ?

  1. พยาบาท
  2. กามฉันทะ
  3. วิจิกิจฉา
  4. ฉันทาคติ

๒๘.คนที่รักษาความดีของตนไว้ ดุจเกลือรักษาความเค็ม ได้ชื่อว่า ปฏิบัติตนตามหลักของปธานธรรมข้อใด ?

  1. เพียรระวังบาปไม่ให้เกิด
  2. เพียรละบาปที่เกิดขึ้นแล้ว
  3. เพียรให้กุศลเกิดขึ้น
  4. เพียรรักษากุศลไม่ให้เสื่อม

๒๙. สภาพเศรษฐกิจที่วิกฤติ ทำให้คนเป็นจำนวนมากหดหู่ ท้อแท้ เพราะอำนาจของนิวรณ์ข้อใด ?

  1. กามฉันทะ
  2. พยาบาท
  3. ถีนมิทธะ
  4. วิจิกิจฉา

๓๐. คนที่ได้รับความสำเร็จในชีวิต เนื่องมาจากธรรมหมวดใด ?

  1. ปธาน ๔
  2. จักร ๔
  3. วุฒิ ๔
  4. อิทธิบาท ๔

๓๑. การให้รางวัลแก่นักกีฬาที่ได้เหรียญทอง เป็นพรหมวิหารข้อใด ?

  1. เมตตา
  2. กรุณา
  3. มุทิตา
  4. อุเบกขา

๓๒. ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ เรียกว่าอะไรในอริยสัจ ๔ ?

  1. ทุกข์
  2. สมุทัย
  3. นิโรธ
  4. มรรค

๓๓. สำนวนว่า “ รู้สิ่งใดไม่สู้รู้วิชา ภายหน้าเติบใหญ่ได้งานทำ ” จัดเข้าในคารวะข้อใด ?

  1. พระพุทธเจ้า
  2. การศึกษา
  3. พระธรรม
  4. การต้อนรับ

๓๔. การรู้จักปรับตัวให้เข้ากับสังคม ตรงกับสัปปุริสธรรมข้อใด ?

  1. รู้จักเหตุ
  2. รู้จักผล
  3. รู้จักบุคคล
  4. รู้จักชุมชน

๓๕. สำนวนว่า “ น้ำขึ้นให้รีบตัก ” หมายถึงสัปปุริสธรรมข้อใด ?

  1. ธัมมัญญุตา
  2. อัตถัญญุตา
  3. กาลัญญุตา
  4. อัตตัญญุตา

๓๖. เมื่อประสบโลกธรรม ควรปฏิบัติตนอย่างไร ?

  1. แสวงหาความถูกต้อง
  2. ทำจิตมิให้ยินดียินร้าย
  3. ทำพิธีสะเดาะเคราะห์
  4. อ่านหนังสือธรรมะ

๓๗. “ มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์ ” ตรงกับทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์ข้อใด ?

  1. อุฏฐานสัมปทา
  2. อารักขสัมปทา
  3. กัลยาณมิตตตา
  4. สมชีวิตา

๓๘. การใช้จ่ายทรัพย์เกินฐานะของตน ตรงกับคำพังเพยใด ?

  1. นกน้อยทำรังแต่พอตัว
  2. เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน
  3. เห็นกงจักรเป็นดอกบัว
  4. เห็นช้างขี้ ขี้ตามช้าง

๓๙.เพื่อนที่คิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว จัดเข้าในมิตรเทียมข้อใด ?

  1. คนปอกลอก
  2. คนหัวประจบ
  3. คนดีแต่พูด
  4. คนชวนทำชั่ว

๔๐. เพื่อนที่ออกปากพึ่งมิได้ เป็นลักษณะของมิตรเทียมข้อใด ?

  1. คนดีแต่พูด
  2. คนปอกลอก
  3. คนหัวประจบ
  4. คนชวนให้ฉิบหาย

๔๑. ตัวเองติดยาเสพติด จึงชักชวนเพื่อนๆ ให้ร่วมทดลองเสพด้วยจัดเป็นมิตรประเภทใด ?

  1. มิตรมีอุปการะ
  2. มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์
  3. มิตรมีความรักใคร่
  4. มิตรชักชวนในทางฉิบหาย

๔๒. อยากเป็นคนดีของสังคม ควรคบมิตรประเภทใด ?

  1. มิตรมีอุปการะ
  2. มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์
  3. มิตรแนะประโยชน์
  4. มิตรมีความรักใคร่

๔๓. “ วางตนเหมาะสม ” ตรงกับสังคหวัตถุข้อใด ?

  1. ทาน
  2. ปิยวาจา
  3. สมานัตตตา
  4. อัตถจริยา

๔๔. หลักการครองเรือนข้อใด สอนให้รู้จักข่มใจเมื่อรู้สึกโกรธ ?

  1. สัจจะ
  2. ทมะ
  3. ขันติ
  4. จาคะ

๔๕. ผู้ที่ชอบช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก ชื่อว่าปฏิบัติตนตามหลักของฆราวาสธรรมข้อใด ?

  1. สัจจะ
  2. ทมะ
  3. ขันติ
  4. จาคะ

๔๖. การค้าขายชนิดใด ไม่เป็นข้อห้ามสำหรับอุบาสกอุบาสิกา ?

  1. ค้าขายเครื่องประหาร
  2. ค้าขายเครื่องประดับ
  3. ค้าขายสัตว์เป็นอาหาร
  4. ค้าขายมนุษย์

๔๗. ใครมักจะอ้างว่า “ หนาวนัก ร้อนนัก ” แล้วไม่ทำการงาน ?

  1. คนป่วย
  2. คนเกียจคร้าน
  3. คนอดนอน
  4. คนขยันเรียน

๔๘. “ ห้ามไม่ให้ทำความชั่ว ให้ตั้งอยู่ในความดี มอบทรัพย์มรดกให้ ” เป็นหน้าที่ของใครในเรื่องทิศ ๖ ?

  1. มารดาบิดา
  2. ครู อาจารย์
  3. บุตรภรรยา
  4. สมณพราหมณ์

๔๙. “ เป็นที่หมิ่นประมาทของเพื่อน ” เป็นลักษณะของอบายมุขข้อใด ?

  1. เที่ยวกลางคืน
  2. ดื่มน้ำเมา
  3. เล่นการพนัน
  4. เที่ยวดูการเล่น

๕๐. “ ไม่รู้จักอาย ” เป็นลักษณะของอบายมุขข้อใด ?

  1. ดื่มน้ำเมา
  2. เที่ยวกลางคืน
  3. คบคนชั่ว
  4. เล่นการพนัน