ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม  ธรรมศึกษาชั้นโท พ.ศ. ๒๕๔๘

๑. ผู้หมั่นเจริญกัมมัฏฐาน ย่อมได้รับประโยชน์อย่างไร ?

  1. มีสุขภาพดี
  2. ทำงานอย่างมีสติ
  3. นอนหลับง่าย
  4. ผิวพรรณผ่องใส

๒. ผู้เริ่มเจริญกัมมัฏฐาน ควรเลือกสถานที่เช่นไร ?

  1. ในอุโบสถ
  2. ป่าช้า
  3. ที่สงบเงียบ
  4. ที่ใดก็ได้

๓. ข้อใดเป็นอาการเบื้องต้นในการเจริญอานาปานสติ ?

  1. นั่งกายตรงกำหนดลม
  2. นั่งกายตรงภาวนา “พุทโธ”
  3. นั่งกายตรงพิจารณาลม
  4. นั่งกายตรงดำรงสติมั่น

๔. ผลของการเจริญวิปัสสนาเบื้องต้นคืออะไร ?

  1. จิตผ่องใส
  2. ความจำดี
  3. มีเหตุผล
  4. รู้อดีตอนาคต

๕. การเจริญวิปัสสนา เป็นเหตุให้รู้แจ้งอะไร ?

  1. สภาวธรรม
  2. คำสั่งสอน
  3. อภิญญา
  4. ไตรเพท

๖. ผลสูงสุดแห่งการเจริญวิปัสสนา คือข้อใด ?

  1. ละนิวรณ์ได้
  2. ละกามคุณได้
  3. ละความยึดมั่นได้
  4. สำเร็จเป็นพระโสดาบัน

๗. สิ่งที่ทำให้สัตว์ต้องข้องอยู่ในโลก เรียกว่าอะไร ?

  1. กาม
  2. กิเลส
  3. ภพ
  4. ชาติ

๘. ข้อใด ไม่ใช่กิเลสกาม ?

  1. ราคะ
  2. โทสะ
  3. อิจฉา
  4. อิสสา

๙. ข้อใด เป็นปฏิบัติบูชาแท้จริง ?

  1. ตักบาตรทุกเช้า
  2. ถวายสังฆทานทุกวัน
  3. ฟังเทศน์เป็นประจำ
  4. ทำความดีตลอดเวลา

๑๐. คำว่า “ทำให้ชีวิตก้าวหน้า พาไปสู่สวรรค์ ป้องกันภัยพิบัติ กำจัดสรรพกิเลส” เป็นอานิสงส์ของข้อใด ?

  1. กัมมัฏฐาน
  2. ทาน
  3. ศีล
  4. บูชา

๑๑. ผู้มีปฏิสันถารดี ย่อมมีบุคลิกภาพเช่นไร ?

  1. ต้อนรับด้วยอาหารน้ำดื่ม
  2. กล่าวธรรมให้ฟัง
  3. ใจเย็น หน้ายิ้ม อารมณ์ดี
  4. หัวเราะอยู่เสมอ

๑๒. ผู้ทำการต้อนรับในข้อใด ชื่อว่าปฏิบัติธรรมปฏิสันถาร ?

  1. ต้อนรับด้วยอาหารน้ำดื่มเป็นต้น
  2. ต้อนรับตามสมควรแก่ฐานะ
  3. ต้อนรับโดยการแนะนำประโยชน์ให้
  4. ข้อ 2 และข้อ 3 ถูก

๑๓. เจตสิกสุข คือสุขทางใจ มีลักษณะเช่นไร ?

  1. สุขเพราะได้ลาภลอย
  2. สุขเพราะได้รับมรดก
  3. สุขเพราะได้เลื่อนยศ
  4. สุขเพราะไม่ถูกกิเลสครอบงำ

๑๔. คนถูกกามวิตกครอบงำ มักมีพฤติกรรมเช่นไร ?

  1. อยากได้ของคนอื่น
  2. ถ่ายรูปอนาจาร
  3. วางแผนต้มตุ๋น
  4. ถูกทุกข้อ

๑๕. พฤติกรรมฆ่ารายวัน สงเคราะห์เข้าในอกุศลวิตกใด ?

  1. กามวิตก
  2. พยาบาทวิตก
  3. วิหิงสาวิตก
  4. ข้อ 2 และข้อ 3 ถูก

๑๖. ความดำริในเรื่อง “สมานฉันท์” จัดเป็นกุศลวิตกใด ?

  1. เนกขัมมวิตก
  2. อัพยาบาทวิตก
  3. อวิหิงสาวิตก
  4. ถูกทุกข้อ

๑๗. ความดำริให้อภัยมีเมตตาไม่เบียดเบียนกัน เป็นกุศลวิตกใด ?

  1. เนกขัมมวิตก
  2. อัพยาบาทวิตก
  3. อวิหิงสาวิตก
  4. ข้อ 2 และข้อ 3 ถูก

๑๘. ผู้มีพฤติกรรมเช่นใด ชื่อว่าถูกไฟคือโมหะแผดเผา ?

  1. ข่มขืนแล้วฆ่า
  2. หงุดหงิดฉุนเฉียว
  3. ยกพวกตีกัน
  4. ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอหวย

๑๙. เหตุใด ราคะ โทสะ โมหะ จึงเรียกว่าไฟ ?

  1. เพราะทำให้เครียด
  2. เพราะทำให้ใจเร่าร้อน
  3. เพราะทำให้กายร้อน
  4. เพราะทำให้เกิดโรค

๒๐. ประชาธิปไตยจะสมบูรณ์ ต้องมีธรรมอะไรเป็นพื้นฐาน ?

  1. อัตตาธิปเตยยะ
  2. โลกาธิปเตยยะ
  3. ธัมมาธิปเตยยะ
  4. ข้อ 2 และข้อ 3 รวมกัน

๒๑. เผด็จการทุกรูปแบบ ตรงกันข้ามกับอธิปเตยยะใด ?

  1. อัตตาธิปเตยยะ
  2. โลกาธิปเตยยะ
  3. ธัมมาธิปเตยยะ
  4. ถูกทุกข้อ

๒๒. “แย่งอาหารกันกิน แย่งถิ่นกันอยู่ แย่งคู่กันพิศวาส แย่งอำนาจกันครอง” จัดเป็นตัณหาอะไร ?

  1. กามตัณหา
  2. ภวตัณหา
  3. วิภวตัณหา
  4. กามตัณหาและภวตัณหา

๒๓. ความอยากได้อิฏฐารมณ์ เรียกว่าอะไร ?

  1. กามตัณหา
  2. ภวตัณหา
  3. วิภวตัณหา
  4. กิเลสตัณหา

๒๔. ปฏิบัติอย่างไร ชื่อว่าปฏิบัติครบทั้ง ๓ ปิฎก ?

  1. รักษากายไม่ให้วิปริต
  2. รักษาจิตอย่าให้วิปลาส
  3. วาจามีศีลสุขล้ำ
  4. ทั้ง ๓ ข้อรวมกัน

๒๕. วัฏฏะ วนหรือหมุน หมายเอาอาการเช่นไร ?

  1. การหมุนไปแห่งธรรม
  2. การเวียนศพรอบเมรุ
  3. การแก่ เจ็บ ตาย
  4. การเวียนว่ายตายเกิด

๒๖. “กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมตามสนอง” ตรงกับวัฏฏะข้อใด ?

  1. กิเลส
  2. กรรม
  3. วิบาก
  4. สงสาร

๒๗. ผู้ถือว่า “แมว ๕ หมา ๖” เลี้ยงไว้เป็นอัปมงคล ต้องนำไปปล่อยวัด จัดเป็นคนจริตอะไร ?

  1. สัทธาจริต
  2. โมหจริต
  3. พุทธิจริต
  4. ราคจริต

๒๘. ข้อใด เป็นความหมายที่แท้จริงของสิกขา ๓ ?

  1. การศึกษาเล่าเรียนทั่วไป
  2. การเรียนพระพุทธพจน์
  3. การฝึกฝนพัฒนา
  4. การท่องจำพระไตรปิฎกได้

๒๙. สาระสำคัญของการศึกษาสิกขา ๓ คืออะไร ?

  1. ทำให้เป็นมนุษย์สมบูรณ์
  2. ทำให้โลกสงบร่มเย็น
  3. ทำให้โลกเจริญก้าวหน้า
  4. ทำให้โลกทันสมัย

๓๐. เหตุใด คนสมัยนี้จึงคอร์รัปชั่นมากขึ้นทุกวัน ?

  1. เพราะกิเลสมาก
  2. เพราะบาปมาก
  3. เพราะตัณหามาก
  4. เพราะโลภมาก

๓๑. พิจารณาแล้วอดกลั้น ตรงกับข้อใด ?

  1. งดเหล้าเข้าพรรษา
  2. เดินตามหลังผู้ใหญ่หมาไม่กัด
  3. อดเปรี้ยวไว้กินหวาน
  4. เวรระงับด้วยการไม่จองเวร

๓๒. ทำอย่างไร จึงจะไม่ริษยาผู้อื่น ?

  1. หมั่นแผ่เมตตา
  2. หมั่นแผ่กรุณา
  3. หมั่นเจริญมุทิตา
  4. หมั่นเจริญอุเบกขา

๓๓. อัปปมัญญาข้อใด เป็นคุณให้เกิดความเที่ยงธรรม ?

  1. เมตตา
  2. กรุณา
  3. มุทิตา
  4. อุเบกขา

๓๔. เมื่อมีคนอื่นโกรธเรา ควรปฏิบัติอย่างไร ?

  1. ไม่โกรธตอบ
  2. แผ่เมตตาให้เสมอ
  3. หมั่นทำดีไว้
  4. ถูกทุกข้อ

๓๕. พุทธบริษัทเช่นไร ควรเรียกว่า “ใกล้เกลือกินด่าง” ?

  1. เชื่อเรื่องทรงเจ้าเข้าผี
  2. เชื่อเรื่องเสน่ห์ยาแฝด
  3. เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดาล
  4. ถูกทุกข้อ

๓๖. ผู้ใดอุปมาเหมือนดอกบัวเสมอน้ำ จักบานในวันพรุ่ง ?

  1. ผู้พอแนะนำได้
  2. ผู้รู้ธรรมพอยกหัวข้อแสดง
  3. ผู้จำได้เฉพาะบท
  4. ผู้รู้ธรรมเมื่ออธิบายความ

๓๗. ในอนุปุพพีกถา ทรงยกทานกถาขึ้นแสดงก่อน เพื่อพระประสงค์ใด ?

  1. เพื่อสละความเห็นแก่ตัว
  2. เพื่อเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้อื่น
  3. เพื่อขจัดความตระหนี่
  4. ถูกทุกข้อ

๓๘. “บูชาพระคุณ ค้ำจุนพระศาสนา พาสู่ความสงบ จบแค่นิพพาน” เป็นอนุปุพพีกถาข้อใด ?

  1. ทานกถา
  2. ศีลกถา
  3. สัคคกถา
  4. เนกขัมมานิสังสกถา

๓๙. “โตงเตงโตงเต้า กินแต่ของเขา ของเราเก็บไว้” เป็นพฤติกรรมของคนเช่นไร ?

  1. คนตระหนี่
  2. คนเห็นแก่ตัว
  3. คนประหยัด
  4. คนมักน้อย

๔๐. ข้อใด เป็นอาวาสมัจฉริยะ ?

  1. รังเกียจคนต่างชาติ
  2. ไม่อยากแต่งงานด้วย
  3. หวงแหนศิลปวิทยา
  4. ไม่อยากให้คนอื่นดีกว่า

๔๑. เกิดโรคร้าย จนเป็นเหตุถึงกับฆ่าตัวตาย เพราะถูกมารใดครอบงำ ?

  1. มารคือปัญจขันธ์
  2. มารคือกิเลส
  3. มารคือความตาย
  4. มารคือเทวบุตร

๔๒. ฆ่ากันทุกวันเพื่อเอาชนะ เป็นพฤติกรรมของคนจริตอะไร ?

  1. คนโทสจริต
  2. คนโมหจริต
  3. คนวิตักกจริต
  4. คนสัทธาจริต

๔๓. เมื่อผู้น้อยไม่ได้สิ่งที่ตนปรารถนา จึงโกรธนินทาผู้ใหญ่ เพราะมีจริตอะไร ?

  1. ราคจริต
  2. โทสจริต
  3. โมหจริต
  4. ทั้ง ๓ จริตระคนกัน

๔๔. “วิชาเป็นอำนาจ มารยาทเป็นเสน่ห์” สงเคราะห์เข้าในข้อใด ?

  1. อรหํ
  2. สมฺมาสมฺพุทฺโธ
  3. วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน
  4. สุคโต

๔๕. พระสงฆ์ปฏิบัติอย่างไร จึงเป็นนาบุญยอดเยี่ยมของโลก ?

  1. เป็นผู้ปฏิบัติดี
  2. เป็นผู้ควรของคำนับ
  3. เป็นผู้ควรของต้อนรับ
  4. เป็นผู้ควรของทำบุญ

๔๖. ตั้งใจเลิกสิ่งเสพติด งดเหล้าเข้าพรรษา ชื่อว่าบำเพ็ญบารมีใด ?

  1. ขันติบารมี
  2. ศีลบารมี
  3. อธิษฐานบารมี
  4. อุเบกขาบารมี

๔๗. เมื่อชีวิตเกิดอุปสรรค ตั้งใจว่า “ชีวิตยังมีอยู่ ต้องสู้ต่อไป” ชื่อว่าบำเพ็ญบารมีใด ?

  1. ขันติบารมี
  2. วิริยบารมี
  3. เมตตาบารมี
  4. สัจจบารมี

๔๘. “ยามบุญมาวาสนาช่วย ที่ป่วยก็หาย ที่หน่ายก็รัก” ตรงกับข้อใด ?

  1. กุศลชนกกรรม
  2. กุศลอุปัตถัมภกกรรม
  3. กุศลอาสันนกรรม
  4. กุศลอาจิณณกรรม

๔๙. “ยังไม่ถึงที่ตายไม่วายชีวาวาตม์ ….” เพราะกรรมใดกำลังให้ผล ?

  1. ชนกกรรม
  2. อุปัตถัมภกกรรม
  3. อาสันนกรรม
  4. พหุลกรรม

๕๐. อโหสิกรรม ในคำว่า “รดน้ำศพอโหสิกรรมแก่ผู้ตาย” หมายความว่าอย่างไร ?

  1. ให้อภัยไม่จองเวร
  2. ขอให้ไปสู่ที่ชอบ
  3. อย่ามีทุกข์เลย
  4. หมดกรรมเสียที