ปัญหาและเฉลยวิชาพุทธานุพุทธประวัติ  นักธรรมชั้นเอก พ.ศ. 2544

ถาม อาสภิวาจาคือวาจาเช่นไร ? มีใจความว่าอย่างไร ?

ตอบ คือวาจาที่เปล่งอย่างองอาจ เป็นภาษิตของบุรุษพิเศษอาชาไนย มีใจความว่า เราเป็นผู้เลิศ เป็นผู้ใหญ่ เป็นผู้ประเสริฐแห่งโลก

ถาม พระพุทธองค์ทรงยืนยันพระองค์เองว่า เป็นสัมมาสัมพุทธะ เพราะทรงอาศัยเหตุอะไร ?

ตอบ เพราะทรงอาศัยเหตุที่ตรัสรู้อริยสัจ 4 อย่างแจ่มแจ้งครบถ้วนทุกประการ อันมีรอบ 3 มีอาการ 12 จึงทรงปฏิญาณพระองค์ว่า เป็นสัมมาสัมพุทธะ


ถาม พระปัญจวัคคีย์ ได้ออกบวชตามพระมหาบุรุษเพราะมีความเชื่ออย่างไร ?

ตอบ มีความเชื่อว่า พระมหาบุรุษจะได้ตรัสรู้อย่างแน่นอน จึงพร้อมใจกันออกบวชติดตามเฝ้าอย่างใกล้ชิด ด้วยหวังว่า พระองค์ได้ตรัสรู้แล้วจักได้เทศนาโปรดตน

ถาม การได้บรรลุอริยผลของพระปัญจวัคคีย์ วันเดียวกันหรือต่างวันกัน ?

ตอบ การบรรลุอริยผลชั้นต้นต่างวันกัน ส่วนการบรรลุอริยผลชั้นสูงสุดวันเดียวกัน


ถาม บุคคลผู้ได้ชื่อว่า อัปปรชักขชาติ มีลักษณะอย่างไร ?

ตอบ มีกิเลสธุลีในปัญญาจักษุน้อยเป็นปกติ สามารถจะรู้ทั่วถึงธรรมได้โดยพลัน

ถาม พระโกณฑัญญะ ได้นามเพิ่มข้างหน้าว่า พระอัญญาโกณฑัญญะ เพราะเหตุใด ?

ตอบ เพราะพระพุทธองค์ทรงทราบว่า ดวงตาเห็นธรรมได้เกิดขึ้นแล้วแก่ท่าน จึงทรงเปล่งอุทานว่า อญฺญาสิ วต โภ โกณฺฑญฺโญ อญฺญาสิ วต โภ โกณฺฑญฺโญ โกณฑัญญะได้รู้แล้วหนอ ๆ อาศัยคำอุทานว่า อญฺญาสิ อญฺญาสิ ท่านจึงได้นามเพิ่มข้างหน้าว่า อัญญาโกณฑัญญะ


ถาม พระศาสดาทรงแสดงอนุปุพพีกถา และอริยสัจ 4 ตามลำดับ แก่บุคคลผู้มีคุณสมบัติเช่นไร ?

ตอบ แก่ผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้คือ

  1. เป็นมนุษย์
  2. เป็นคฤหัสถ์
  3. มีอุปนิสัยแก่กล้า ควรบรรลุโลกุตรคุณ

ถาม พระศาสดาประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทาแก่พระยสกุลบุตรว่าอย่างไร ?

ตอบ ท่านจงเป็นภิกษุมาเถิด ธรรมเรากล่าวดีแล้ว ท่านจงประพฤติพรหมจรรย์เถิด


ถาม คำว่า ” บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม้ให้ขุ่น ” เปรียบด้วยปฏิปทาจริยาวัตรข้อใดของพระโมคคัลลานะ ?

ตอบ ข้อที่ท่านเป็นผู้ฉลาดในการแนะนำตระกูลที่ยังไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใส ไม่ทำศรัทธาและโภคทรัพย์ของเขาให้เสีย เปรียบเหมือนแมลงผึ้งบินเที่ยวไปในสวนดอกไม้ ไม่ทำสีและกลิ่นของดอกไม้ให้ช้ำ ถือเอาแต่รสบินไปฉะนั้น

ถาม เจ้าศากยะได้ทูลขอพระศาสดาให้บวชอุบาลีภูษามาลาก่อน เพราะเห็นประโยชน์อันใด ?

ตอบ เพราะเห็นประโยชน์ว่า จักได้ทำการกราบไหว้ ลุกรับ ประณมมือ และทำกิจที่สมควรอื่น ๆ แก่พระอุบาลีซึ่งเดิมเป็นคนรับใช้ เมื่อเป็นเช่นนี้จักละมานะความถือตัวได้


ถาม ข้อความว่า ” ขออย่าให้พระภิกษุทั้งหลายบวชบุตรที่บิดามารดายังไม่อนุญาตต่อไป ” เป็นคำพูดของใคร ? มีความเป็นมาอย่างไร ?

ตอบ เป็นพระดำรัสของพระเจ้าสุทโธทนะ, มีความเป็นมาอย่างนี้ คือเมื่อพระนันทะพระโอรสทรงผนวช พระเจ้าสุทโธทนะทรงโทมนัสเป็นอันมาก ครั้นราหุลกุมารบวชแล้ว สิ้นผู้ที่จะสืบพระวงศ์ ยิ่งทรงโทมนัสมากขึ้น ทรงปรารภถึงทุกข์อันนี้ที่จะพึงมีแก่มารดาบิดาในตระกูลอื่นในเวลาเมื่อบุตรออกบวช จึงทูลขอพรนี้

ถาม พระราหุลได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ เพราะได้สดับธรรมอะไร ?

ตอบ เพราะได้สดับพระโอวาทซึ่งสั่งสอนในทางวิปัสสนา คล้ายกับโอวาทที่ตรัสสอนพระปัญจวัคคีย์ ต่างกันแต่ทรงยกอายตนะภายในภายนอกเป็นต้นขึ้นแสดงแทนขันธ์ 5 เท่านั้น


ถาม พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนคฤหัสถ์ด้วยวิธี 4 สถานนั้น ได้แก่อะไรบ้าง ?

ตอบ ได้แก่

  1. สันทัสสนา ชี้ให้ชัด ให้เห็นแจ่มแจ้งในสัมมาปฏิบัติ
  2. สมาทปนา ชวนให้ปฏิบัติ แสดงเหตุผลให้เห็นสมจริง
  3. สมุตเตชนา ให้อาจหาญ มีกำลังใจในสัมมาปฏิบัติ
  4. สัมปหังสนา ให้ร่าเริง แช่มชื่น ในการปฏิบัติตามธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ถาม ในการสอนธรรมของพระพุทธองค์นั้น ทรงมีจุดมุ่งหมายอย่างไรบ้าง ?

ตอบ อย่างนี้คือ

  1. เพื่อให้ผู้ฟังได้รู้เห็นในสิ่งที่ควรรู้ควรเห็น
  2. เพื่อให้ผู้ฟังใช้เหตุผลตรองตามจนเห็นจริง
  3. เพื่อให้ผู้ฟังนำไปปฏิบัติและได้รับผลของการปฏิบัติตามสมควรแก่การปฏิบัติของตน ๆ

ถาม จงแสดงใจความแห่งพระพุทธพจน์ที่ชี้ให้เห็นว่า พระอรหันต์ยังมีได้ตลอดเวลาที่บุคคลยังปฏิบัติชอบอยู่ ?

ตอบ ใจความแห่งพระพุทธพจน์ที่ตรัสก่อนปรินิพพานกับสุภัททปริพาชกว่า ” ดูก่อนสุภัททะ ถ้าภิกษุทั้งหลาย ยังเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่ โลกก็จะไม่ว่างจากพระอรหันต์

ถาม ในสมัยพุทธกาล พระสาวกองค์ใดได้รับการอุปสมบทด้วยญัตติจตุตถ-กรรมวาจาเป็นองค์แรก และองค์ใดเป็นองค์สุดท้าย ?

ตอบ พระราธะเป็นองค์แรก พระสุภัททะเป็นองค์สุดท้าย


ถาม ภิกษุณีผู้มีชื่อต่อไปนี้ได้รับเอตทัคคะในทางไหน ?

  1. พระนางมหาปชาบดีโคตมี
  2. นางเขมาเถรี
  3. นางอุบลวัณณาเถรี
  4. นางปฏาจาราเถรี
  5. นางธัมมทินนาเถรี

ตอบ

  1. พระนางมหาปชาบดีโคตมี ได้รับเอตทัคคะในทางรัตตัญญู
  2. นางเขมาเถรี ได้รับเอตทัคคะในทางมีปัญญา
  3. นางอุบลวัณณาเถรี ได้รับเอตทัคคะในทางมีฤทธิ์
  4. นางปฏาจาราเถรี ได้รับเอตทัคคะในทางทรงวินัย
  5. นางธัมมทินนาเถรี ได้รับเอตทัคคะในทางธรรมกถึก

ถาม พระสงฆ์เถรวาทในเมืองไทยไม่สามารถบวชภิกษุณีได้เพราะเหตุไร ?

ตอบ เพราะมีพระพุทธานุญาตว่า “ ภิกษุณีต้องบวชจากภิกษุณีสงฆ์ก่อน แล้วจึงบวชจากภิกษุสงฆ์อีกครั้งหนึ่ง ” เวลานี้ภิกษุณีสงฆ์ไม่มีแล้ว การที่จะบวชภิกษุณีจึงไม่สามารถทำได้


ถาม พระยาวัสวดีมาร ได้ทูลขอพระพุทธเจ้าให้เสด็จปรินิพพานกี่ครั้ง ? ที่ไหนบ้าง ?

ตอบ ได้ทูลขอพระพุทธเจ้าให้เสด็จปรินิพพาน 2 ครั้งคือ

  • ครั้งแรกที่ใต้ต้นอชปาลนิโครธ
  • ครั้งที่สองที่ปาวาลเจดีย์

ถาม เมื่อคราวที่มารทูลขอให้ปรินิพพานครั้งแรก พระองค์ทรงตอบมารว่าอย่างไร ?

ตอบ ทรงตอบมารว่า ” ดูก่อนมารผู้ใจบาป เมื่อใดพุทธบริษัท 4 เป็นผู้ฉลาด เป็นพหูสูตร สามารถดำรงพระธรรมวินัยสืบต่อศาสนาได้ สามารถแสดงธรรมโปรดเวไนยสัตว์ ให้สำเร็จมรรค ผล นิพพาน และเผยแผ่ศาสนาไปได้อย่างกว้างขวางมั่นคง เมื่อนั้น ตถาคตจึงจะปรินิพพาน