ปัญหาข้อที่ 1
ถาม กาม และกามคุณ มีอธิบายอย่างไร ?
ตอบ
- กาม ได้แก่ ความใคร่ ความน่าปรารถนา ความพอใจ แบ่งเป็น กิเลสกาม และวัตถุกาม
- กามคุณ ได้แก่อารมณ์ที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ มี รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ซึ่งเป็นวัตถุกามนั่นเอง
ถาม รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ทั้ง 5 นี้ เพราะเหตุไรจึงเรียกว่า กามคุณ ?
ตอบ เพราะเป็นกลุ่มแห่งกาม และเป็นสิ่งที่ให้เกิดความสุขความพอใจได้
ปัญหาข้อที่ 2
ถาม คำว่า อธิปเตยยะ แปลว่าอะไร ? มีอะไรบ้าง ?
ตอบ แปลว่า ความเป็นใหญ่ มี 3 คือ
- อัตตาธิปเตยยะ ความมีตนเป็นใหญ่
- โลกาธิปเตยยะ ความมีโลกเป็นใหญ่
- ธัมมาธิปเตยยะ ความมีธรรมเป็นใหญ่
ถาม บุคคลผู้ถือความถูกต้องเป็นใหญ่ ทำด้วยอำนาจเมตตา กรุณา เป็นต้น จัดเข้าในอธิปเตยยะข้อไหนได้หรือไม่ ?
ตอบ จัดเข้าในธัมมาธิปเตยยะได้
ปัญหาข้อที่ 3
ถาม ปาฏิหาริย์คืออะไร ? พระพุทธเจ้าทรงยกย่องปาฏิหาริย์อะไรว่าเป็นอัศจรรย์ยิ่งกว่าปาฏิหาริย์อื่น ?
ตอบ คือ การกระทำที่ให้บังเกิดผลเป็นอัศจรรย์ ทรงยกย่องอนุสาสนีปาฏิหาริย์ว่าเป็นอัศจรรย์ยิ่งกว่าปาฏิหาริย์อื่น
ถาม พุทธจริยา และพุทธิจริต ต่างกันอย่างไร ?
ตอบ
- พุทธจริยา คือพระจริยาของพระพุทธเจ้า
- พุทธิจริต คือผู้มีความรู้เป็นปกติ
ปัญหาข้อที่ 4
ถาม กาม ภพ ทิฏฐิ อวิชชา เพราะเหตุไรจึงเรียกว่า โอฆะ โยคะ อาสวะ ?
ตอบ
- เรียกว่า โอฆะ เพราะเป็นดุจกระแสน้ำอันท่วมใจสัตว์
- เรียกว่า โยคะ เพราะประกอบสัตว์ไว้ในภพ
- เรียกว่า อาสวะ เพราะเป็นสภาพหมักหมมอยู่ในสันดาน
ถาม กิจในอริยสัจแต่ละอย่างนั้นมีอะไรบ้าง ?
ตอบ มี 4 คือ
- ปริญญา กำหนดรู้ทุกขสัจ
- ปหานะ ละสมุทัยสัจ
- สัจฉิกรณะ ทำให้แจ้งนิโรธสัจ
- ภาวนา ทำมัคคสัจให้เกิด
ปัญหาข้อที่ 5
ถาม กรรมฝ่ายอกุศลจัดเป็นมารอะไรในมาร 5 ? เพราะเหตุไรจึงได้ชื่อว่ามาร ?
ตอบ จัดเป็นอภิสังขารมาร, ที่ได้ชื่อว่ามารเพราะทำให้เป็นผู้ทุรพล
ถาม สุทธาวาสมีกี่ชั้น ? อะไรบ้าง ? เป็นที่เกิดของใคร ?
ตอบ มี 5 ชั้นคือ
- อวิหา
- อตัปปา
- สุทัสสา
- สุทัสสี
- อกนิฏฐา
เป็นที่เกิดของพระอนาคามี
ปัญหาข้อที่ 6
ถาม อัญญสัตถุทเทสคืออะไร ? หมายถึงผู้ประพฤติเช่นไร ?
ตอบ คือถือศาสดาอื่น หมายถึงภิกษุผู้ไปเข้ารีตเดียรถีย์ คือหันเหไปนับถือศาสนาอื่นทั้งที่ยังถือเพศบรรพชิตอยู่ ต้องห้ามมิให้อุปสมบทอีก
ถาม อัญญสัตถุทเทสต่างจากสังฆเภทอย่างไร ?
ตอบ ต่างกัน คืออัญญสัตถุทเทสนั้น ละทิ้งศาสนาเดิมของตน เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่น แต่ไม่ทำลายพวกเดิมของตน ส่วนสังฆเภทนั้น ยังอยู่ในศาสนาเดิมของตน แต่ทำลายพวกตนเองให้แตกแยกเป็นพรรคเป็นพวก
ปัญหาข้อที่ 7
ถาม อะไรเรียกว่า อนุสัย ? เพราะเหตุไรจึงได้ชื่อเช่นนั้น ?
ตอบ กิเลสที่นอนเนื่องอยู่ในสันดาน เรียกว่าอนุสัย เพราะกิเลสทั้ง 7 อย่างล้วนเป็นกิเลสอย่างละเอียดที่นอนเนื่องอยู่ในสันดาน บางทีไม่แสดงอาการที่แท้จริงออกมาให้ปรากฏ ต่อเมื่อมีอารมณ์ภายนอกอย่างใดอย่างหนึ่งมายั่วยวน ก็แสดงออกมาให้ปรากฏและทำจิตให้ขุ่นมัว เมื่อไม่มีอารมณ์มายั่วยวน ก็นอนสงบนิ่งอยู่ประหนึ่งว่าเป็นผู้ไม่มีกิเลส เป็นอยู่เช่นนี้ จึงได้ชื่อว่าอนุสัย
ถาม การจ้องตาต่อตากับหญิงสาวแล้วชื่นใจ จัดเป็นเมถุนสังโยคได้หรือไม่ ? เพราะเหตุไร ?
ตอบ ได้ เพราะอาการเช่นนั้นอิงอาศัยกาม
ปัญหาข้อที่ 8
ถาม พระพุทธคุณ บทว่า อรหํ แปลว่าอย่างไรได้บ้าง ?
ตอบ แปลว่า
- เป็นผู้เว้นไกลจากกิเลสและบาปธรรม
- เป็นผู้หักกำแห่งสังสารจักร
- เป็นผู้ควรแนะนำสั่งสอนเขา
- เป็นผู้ควรรับความเคารพนับถือของเขา
- เป็นผู้ไม่มีข้อลับ ไม่ได้ทำความเสียหายอันจะพึงซ่อนเพื่อมิให้คนอื่นรู้
ถาม พระสงฆ์ดีอย่างไร จึงจัดว่าเป็นนาบุญของโลก ?
ตอบ พระสงฆ์เป็นผู้บริสุทธิ์ ทักขิณาที่บริจาคแก่ท่าน ย่อมมีผลานิสงส์ดุจนาที่มีดินดีและไถดี พืชที่หว่านที่ปลูกลงย่อมเผล็ดผลไพบูลย์ จึงชื่อว่านาบุญของโลก
ปัญหาข้อที่ 9
ถาม กรรมหมายถึงการกระทำเช่นไร ?
ตอบ หมายถึงการกระทำทางกาย วาจา ใจ ที่มีเจตนาจงใจทำ เป็นได้ทั้งฝ่ายดี ฝ่ายชั่วหรือเป็นกลาง ๆ
ถาม ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม และอุปปัชชเวทนียกรรม คือกรรมเช่นไร ?
ตอบ
- ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม คือกรรมให้ผลในภพปัจจุบัน
- อุปปัชชเวทนียกรรม คือกรรมให้ผลในภพที่จะเกิดถัดไป
ปัญหาข้อที่ 10
ถาม สัทธรรมในจรณะ 15 คืออะไรบ้าง ?
ตอบ คือ
- สัทธา ความเชื่อ
- หิริ ความละอายแก่ใจ
- โอตตัปปะ ความเกรงกลัวผิด
- พาหุสัจจะ ความเป็นผู้ได้ฟังมาก
- วิริยะ ความเพียร
- สติ ความระลึกได้
- ปัญญา ความรอบรู้
ถาม พาหุสัจจะ ความเป็นผู้ได้ฟังมาก หมายถึงฟังอะไร ? ประกอบด้วยองค์เท่าไร ? อะไรบ้าง ?
ตอบ หมายถึงฟังธรรม ซึ่งไพเราะในเบื้องต้น ไพเราะในท่ามกลาง ไพเราะในที่สุด ประกอบด้วยอรรถ ด้วยพยัญชนะ ประกาศพรหมจรรย์บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง ประกอบด้วยองค์ 5 คือ
- พหุสฺสุตา ได้ยินได้ฟังมาก
- ธตา ทรงจำได้
- วจสา ปริจิตา ท่องไว้ด้วยวาจา
- มนสานุเปกฺขิตา เอาใจจดจ่อ
- ทิฏฺฐิยา สุปฏิวิทฺธา ขบด้วยทิฏฐิ