ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ  นักธรรมชั้นตรี พ.ศ. 2547

ถาม อุปสัมปทา (การอุปสมบท) มี 3 วิธี ในปัจจุบันใช้วิธีไหน ? กำหนดสงฆ์อย่างต่ำไว้เท่าไร ?

ตอบ ใช้ญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทา การอุปสมบทด้วยกรรมมีญัตติเป็นที่ 4 ฯ กำหนดสงฆ์อย่างต่ำไว้คือ ในมัธยมประเทศ 10 รูป ในปัจจันตชนบท 5 รูป ฯ


ถาม พระวินัย คืออะไร ? พระภิกษุรักษาพระวินัยดีแล้ว ย่อมได้รับอานิสงส์อย่างไร ?

ตอบ คือ พระพุทธบัญญัติและอภิสมาจาร ฯ พระภิกษุรักษาพระวินัยดีแล้วย่อมได้รับอานิสงส์คือ ความไม่ต้องเดือดร้อนใจ ได้รับ ความแช่มชื่นว่า ได้ประพฤติดีงาม เข้าหมู่สงฆ์ก็อาจหาญ ฯ


ถาม นิสสัยและอกรณียกิจคืออะไร ? ทั้ง 2 อย่างรวมเรียกว่าอะไร ?

ตอบ นิสสัยคือ ปัจจัยเครื่องอาศัยของบรรพชิต อกรณียกิจคือ กิจที่บรรพชิตไม่ควรทำ ฯ ทั้ง 2 อย่าง รวมเรียกว่า อนุศาสน์ ฯ


ถาม สิกขา กับ สิกขาบท ต่างกันอย่างไร ?

ตอบ ต่างกันอย่างนี้ สิกขา ได้แก่ข้อที่ควรศึกษา คือ ศีล สมาธิ และปัญญา สิกขาบท ได้แก่ พระบัญญัติมาตราหนึ่งๆ ฯ


ถาม อาการที่ภิกษุจะต้องอาบัติข้อที่ว่า ต้องด้วยสงสัยแล้วขืนทำลง มีอธิบายอย่างไร ?

ตอบ มีอธิบายว่า ภิกษุสงสัยอยู่ว่า ทำอย่างนั้นๆ ผิดพระบัญญัติหรือไม่ แต่ขืนทำด้วยความสะเพร่าเช่นนี้ ถ้าการที่ทำนั้นผิดพระบัญญัติก็ต้องอาบัติตามวัตถุ ถ้าไม่ผิดก็ต้องอาบัติทุกกฏเพราะสงสัยแล้วขืนทำ ฯ


ถาม คำว่า มาตุคาม ในสังฆาทิเสส สิกขาบทที่ 2, 3, 4 และ 5 ต่างกันอย่างไร ?

ตอบ มาตุคามในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ 2 หมายรวมทั้งหญิงที่รู้เดียงสาและไม่รู้เดียงสา โดยที่สุดแม้เกิดในวันนั้น ส่วนมาตุคามในสังฆาทิเสสสิกขาบทที่ 3, 4 และ 5 หมายเฉพาะหญิงผู้รู้เดียงสาแล้วเท่านั้น ฯ


ถาม ในอนิยต ที่ลับตา และที่ลับหู ได้แก่ที่เช่นไร ? ภิกษุอยู่กับมาตุคามสองต่อสองในที่เช่นนั้น เป็นทางปรับอาบัติอะไรได้บ้าง ?

ตอบ

ที่ลับตา ได้แก่ ที่มีวัตถุกำบัง แลเห็นไม่ได้ ที่ลับหู ได้แก่ ที่แจ้ง แลเห็นได้ แต่ห่าง ไม่ได้ยินเสียงพูด ฯ ในที่ลับตา เป็นทางปรับอาบัติปาราชิก สังฆาทิเสส และ ปาจิตตีย์ ในที่ลับหู เป็นทางปรับอาบัติสังฆาทิเสส และ ปาจิตตีย์ ฯ


ถาม จีวรที่เป็นนิสสัคคีย์แล้ว ควรสละให้แก่ใคร ? ถ้าจีวรนั้นสูญหาย พึงปฏิบัติเช่นไร ?

ตอบ ควรสละให้แก่สงฆ์ก็ได้ แก่คณะก็ได้ แก่บุคคลก็ได้ ฯ ถ้าจีวรนั้นสูญหาย พึงแสดงอาบัติเท่านั้น ฯ


ถาม ภิกษุรู้อยู่ น้อมลาภสงฆ์ไปเพื่อตนก็ดี เพื่อบุคคลก็ดี เพื่อสงฆ์อื่นก็ดี ต้องอาบัติอะไร ?

ตอบ น้อมลาภที่เขาจะถวายสงฆ์มาเพื่อตน ต้องนิสสัคคิยปาจิตตีย์ เพื่อบุคคล ต้องปาจิตตีย์ เพื่อสงฆ์อื่น ต้องทุกกฏ ฯ


ถาม ข้อว่า ภิกษุพึงทำความศึกษาว่า เราจักฉันบิณฑบาตโดยเคารพ นั้น มีอธิบายอย่างไร ?

ตอบ มีอธิบายว่า ภิกษุฉันบิณฑบาต แม้เป็นของเลว ก็ไม่แสดงอาการวิการ คือฉันโดยปกติ และเมื่อฉัน ก็ไม่ฉันพลางทำกิจอื่นพลาง ฯ