๑. คำว่า “โลก” ในบาลีว่า “เอถ ปสฺสถิมํ โลกํ” หมายถึงข้อใด ?
- แผ่นดินและหมู่สัตว์
- แผ่นดินและจักรวาล
- แผ่นดิน น้ำ อากาศ
- หมู่มนุษย์และสัตว์
๒. พระพุทธเจ้าตรัสสอนให้ดูโลกอย่างไร ?
- ดูประโยชน์มิใช่ประโยชน์
- ดูคุณและโทษ
- ดูตามเป็นจริง
- ดูว่าไม่มีแก่นสาร
๓. ข้อใด เป็นพุทธประสงค์ให้มาดูโลก ?
- เพื่อไม่ให้มัวเมาติดอยู่
- เพื่ออยู่อย่างปลอดภัย
- เพื่อความไม่ประมาท
- เพื่อหาทางออกจากโลก
๔. ทำอย่างไร จึงจะไม่ถูกเรียกว่า “พวกคนเขลา” ?
- ต้องรู้ทันโลก
- ต้องรู้โลกตามเป็นจริง
- ต้องรู้โลกธรรม
- ต้องรู้คดีโลกคดีธรรม
๕. ทำอย่างไร ถึงจะไม่ข้องอยู่ในโลก ?
- ไม่ติดในสิ่งล่อใจ
- ไม่ยุ่งกับใคร
- ปรารถนาไม่เกิดอีก
- ออกบวช
๖. ข้อใด มิใช่อาการสำรวมจิตตามหลักของนิพพิทา ?
- สำรวมอินทรีย์ ๖
- พิจารณาปัจจัย ๔
- มนสิการกัมมัฏฐาน
- เจริญวิปัสสนา
๗. โดยตรง ท่านจัดอะไรเป็นมาร ?
- กิเลสกาม
- วัตถุกาม
- กามกิเลส
- กามตัณหา
๘. เพราะเหตุไร จึงจัดว่าเป็นมาร ?
- เพราะทำให้ติดใจ
- เพราะทำให้หลง
- เพราะล้างผลาญความดี
- เพราะทำให้เป็นอันธพาล
๙. กำจัดมารนั้นได้ ด้วยวิธีอย่างไร ?
- สำรวมกาย วาจา ใจ
- สำรวมจิต
- ปิดปาก ปิดหู ปิดตา
- ไม่รับรู้อารมณ์
๑๐. การทำใจให้สงบเป็นสมาธิ จัดเป็นวิสุทธิใด ในวิสุทธิ ๗ ?
- สีลวิสุทธิ
- จิตตวิสุทธิ
- ทิฏฐิวิสุทธิ
- ญาณทัสสนวิสุทธิ
๑๑. สังขารในปฏิปทาแห่งนิพพิทานั้น โดยตรงได้แก่อะไร ?
- สังขารทั้งหมด
- สังขารในขันธ์ ๕
- ปัญจขันธ์
- รูปขันธ์
๑๒. นิพพิทานั้นเกิดขึ้นด้วยอะไร จึงเป็นนิพพิทาญาณ ?
- เกิดด้วยปัญญา
- เกิดด้วยฌาน
- เกิดด้วยวิสุทธิ
- เกิดด้วยสมาธิ
๑๓. ข้อใด เป็นสมมติสัจจะ ?
- สังขารไม่เที่ยง
- สังขารเป็นทุกข์
- ธรรมเป็นอนัตตา
- มารดาบิดา
๑๔. สังขารที่ผันแปรไปในระหว่าง เรียกว่าอะไร ?
- อนิจจลักษณะ
- ทุกขลักษณะ
- อนัตตลักษณะ
- ถูกทุกข้อ
๑๕. ข้อใด เป็นความหมายของทุกข์ ?
- สภาพที่เบียดเบียนสัตว์
- สภาพอันปัจจัยปรุงแต่ง
- สภาพไม่มีความยั่งยืน
- ถูกทุกข้อ
๑๖. ความหนาว ร้อน หิว กระหาย จัดเป็นทุกข์ข้อใด ?
- สภาวทุกข์
- นิพัทธทุกข์
- วิปากทุกข์
- พยาธิทุกข์
๑๗. อวัยวะไม่ทำหน้าที่ตามปกติจนเกิดความทุกข์ เป็นทุกข์ข้อใด ?
- สภาวทุกข์
- นิพัทธทุกข์
- วิปากทุกข์
- พยาธิทุกข์
๑๘. “พูดโดยไม่คิด พ่นพิษใส่คนอื่น” จัดเป็นทุกข์ข้อใด ?
- สหคตทุกข์
- วิวาทมูลกทุกข์
- พยาธิทุกข์
- นิพัทธทุกข์
๑๙. วิปากทุกข์ หมายถึงทุกข์ข้อใด ?
- ทุกข์เพราะเสวยผลกรรม
- ทุกข์เพราะวิวาทกัน
- ทุกข์เพราะเศรษฐกิจ
- ทุกข์เพราะเจ็บป่วย
๒๐. สันตาปทุกข์ ทุกข์เพราะใจร้อนรน เกิดจากอะไร ?
- อารมณ์เครียด
- ความผิดหวัง
- ราคะเป็นต้นแผดเผา
- วิตกจริตแผดเผา
๒๑. ข้อใด เป็นสภาวทุกข์ ?
- เกิด แก่ ตาย
- ร้อน หิว กระหาย
- โรค ภัย ไข้เจ็บ
- ยากจน อดอยาก
๒๒. ทุกข์ทั้งหมดรวมเรียกว่า ทุกขขันธ์ เกิดขึ้นเพราะสาเหตุใด ?
- ขาดสติ
- ขาดปัญญา
- ความยึดมั่น
- ความเห็นแก่ตัว
๒๓. ข้อใด ช่วยบรรเทาความเศร้าโศกเสียใจได้ ?
- ตั้งสติปล่อยวาง
- ร้องไห้ดัง ๆ
- ไปเที่ยวพักผ่อน
- ฟังพระเทศน์
๒๔. พึงปฏิบัติต่อสังขารอย่างไร ?
- มีสติทุกเมื่อ
- พิจารณาทุกเมื่อ
- ศึกษาให้รู้จริง
- ศึกษาตัวเอง
๒๕. เห็นสังขารเป็นทุกข์แล้วเกิดอะไรขึ้น จึงเรียกนิพพิทา ?
- เบื่อหน่าย
- คลายกำหนัด
- ปล่อยวาง
- ปลงตก
๒๖. เห็นว่า “นั่นมิใช่เรา นั่นมิใช่ของเรา” จัดเป็นอนัตตาในข้อใด ?
- ไม่อยู่ในอำนาจ
- แย้งต่ออัตตา
- หาเจ้าของมิได้
- เป็นสภาพสูญ
๒๗. เพราะถูกอะไรปิดบังไว้ จึงไม่เห็นสังขารเป็นอนัตตา ?
- อิริยาบถ
- สันตติ
- อนิจจสัญญา
- ฆนสัญญา
๒๘. เมื่อเกิดนิพพิทา ย่อมเป็นเหตุให้เกิดอะไรตามมา ?
- ความหลุดพ้น
- ความสิ้นกำหนัด
- ความไม่ประมาท
- ความบริสุทธิ์
๒๙. อิริยาบถใด เหมาะแก่ผู้เริ่มเจริญกัมมัฏฐาน ?
- ยืน เดิน
- ยืน นอน
- นั่ง เดิน
- นั่ง นอน
๓๐. ผู้ฝึกจิตจนช่ำชองแล้ว ควรใช้อิริยาบถใด ?
- ยืน
- เดิน
- นั่ง
- ทุกอิริยาบถ
๓๑. อะไรเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้การเจริญกัมมัฏฐานไม่ได้ผล ?
- ไม่ตั้งใจจริง
- ปฏิบัติไม่ถูกวิธี
- มีปลิโพธมาก
- กัมมัฏฐานไม่ถูกจริต
๓๒. สถานที่ใด เหมาะแก่ผู้เริ่มเจริญกัมมัฏฐาน ?
- ป่าไม้
- ป่าช้า
- โคนไม้อันสงัด
- ถูกทุกข้อ
๓๓. ข้อใด มิใช่ความหมายของคำว่า “พุทฺโธ” ?
- ผู้รู้
- ผู้ตื่น
- ผู้เบิกบาน
- ผู้มีโชค
๓๔. คนที่เห็นว่า “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” ตรงกับข้อใด ?
- สัมมาสติ
- สัมมาทิฏฐิ
- สัมมาสมาธิ
- สัมมาสังกัปปะ
๓๕. ข้อใด จัดเข้าในจิตตวิสุทธิ ?
- สัมมาวาจา
- สัมมากัมมันตะ
- สัมมาอาชีวะ
- สัมมาสติ
๓๖. ข้อใด เป็นอุบายดับกามฉันทนิวรณ์ ?
- พิจารณาว่าไม่เที่ยง
- พิจารณาว่าไม่งาม
- พิจารณาสักว่าเป็นธาตุ
- ถูกทุกข้อ
๓๗. คนชอบง่วงนอน ควรเจริญกัมมัฏฐานอะไร ?
- พรหมวิหาร
- กสิณ
- มูลกัมมัฏฐาน
- พุทธานุสสติ
๓๘. ข้อใด ตรงกับคำว่า “จริต” ความประพฤติเป็นไปของสัตว์โลก ?
- อุปนิสัย
- นิสัย
- จิต
- อารมณ์
๓๙. คนสัทธาจริต มีลักษณะเช่นไร ?
- เชื่อง่าย
- เชื่อเหตุผล
- เชื่อมั่นตัวเอง
- เชื่ออาจารย์
๔๐. กัมมัฏฐานข้อใด เหมาะแก่คนสัทธาจริต ?
- พุทธานุสสติ
- กายคตาสติ
- มรณสติ
- อุปสมานุสสติ
๔๑. คนโทสจริต มักมีลักษณะเช่นไร ?
- เครียดง่าย
- หงุดหงิดง่าย
- ฟุ้งซ่านง่าย
- ใจน้อยง่าย
๔๒. กัมมัฏฐานข้อใด เหมาะแก่คนโทสจริต ?
- อสุภะ
- อนุสสติ
- กสิณ
- พรหมวิหาร
๔๓. คนวิตกจริต มีลักษณะเช่นไร ?
- คิดฟุ้งซ่าน
- กังวลไปทุกเรื่อง
- นอนไม่ค่อยหลับ
- ถูกทุกข้อ
๔๔. กัมมัฏฐานข้อใด เหมาะแก่คนวิตกจริต ?
- อานาปานสติ
- มรณสติ
- อสุภะ
- พรหมวิหาร
๔๕. ผู้เจริญมรณสติต้องประกอบด้วยองค์อะไรบ้าง จึงจะแยบคาย ?
- ระลึกถึงความตาย
- รู้ว่าต้องตายแน่
- เกิดสังเวชสลดใจ
- ถูกทุกข้อ
๔๖. เจริญมรณสติอย่างไร ชื่อว่าไม่แยบคาย ?
- ไม่กลัวตาย
- เกิดความสังเวช
- สะดุ้งหวาดผวา
- กล้าเผชิญความตาย
๔๗. พิจารณา เกสา โลมา… อย่างไร จึงจัดเป็นวิปัสสนา ?
- ปฏิกูลน่าเกลียด
- ไม่งามน่ารังเกียจ
- เต็มไปด้วยซากศพ
- ไม่จิรังต้องแตกสลาย
๔๘. เหตุใด ท่านจึงสอนให้เจริญเมตตาในตนก่อน ?
- เพื่อให้ตนเป็นพยาน
- เพื่อให้รักตนมากๆ
- เพื่อให้ตนเป็นที่รัก
- เพื่อให้หมดโทสะ
๔๙. สติกำหนดพิจารณาใจที่เศร้าหมองหรือผ่องแผ้วเป็นอารมณ์ว่า “ใจนี้สักว่าใจ …” จัดเข้าในสติปัฏฐานข้อใด ?
- กายานุปัสสนา
- เวทนานุปัสสนา
- จิตตานุปัสสนา
- ธัมมานุปัสสนา
๕๐. พิจารณาธาตุ ๔ อย่างไร จึงจัดเป็นวิปัสสนากัมมัฏฐาน ?
- พิจารณาสักว่าเป็นธาตุ
- พิจารณาว่าว่างเปล่า
- พิจารณาว่าไม่เที่ยง
- ถูกทุกข้อ