๑. อนุพุทธประวัติ หมายถึงประวัติของใคร ?
ก. พระพุทธเจ้า
ข. พระปัจเจกพุทธเจ้า
ค. พระศาสดา
ง. พระสาวก
๒. พระอัญญาโกณฑัญญะ มีบทบาทสำคัญอย่างไร ?
ก. ทำนายเป็น ๒ ทาง
ข. เป็นพุทธอุปัฏฐาก
ค. เป็นพยานตรัสรู้
ง. ตามเสด็จออกบวช
๓. ปัญจวัคคีย์เห็นพระพุทธเจ้าเสด็จมา แสดงอาการอย่างไร ?
ก. ลุกขึ้นรับ
ข. รับบาตรจีวร
ค. กราบไหว้
ง. ตั้งอาสนะไว้
๔. ใครกล่าวว่า พวกเธอเคยได้ฟังวาจาเช่นนี้ของเราหรือไม่ ?
ก. พระพุทธเจ้า
ข. พระโกณฑัญญะ
ค. พระอัสสชิ
ง. พระสารีบุตร
๕. พระอัญญาโกณฑัญญะบรรลุพระอรหันต์ เพราะฟังธรรมใด ?
ก. ธัมมจักรกัปปวัตนสูตร
ข. อนัตตลักขณสูตร
ค. อาทิตตปริยายสูตร
ง. ธัมมนิยามสูตร
๖. ขันธ์ ๕ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ปรากฏในพระสูตรไหน ?
ก. ธัมมจักกัปปวัตตสูตร
ข. อนัตตลักขณสูตร
ค. อาทิตตปริยายสูตร
ง. เวทนาปริคคหสูตร
๗. อุรุเวลกัสสปะเป็นนักบวชประเภทใด ?
ก. ดาบส
ข. อาชีวก
ค. ชฏิล
ง. ปริพาชก
๘. เมื่ออุรุเวลกัสสปะเห็นธรรมแล้ว เข้าใจในลัทธิของตนอย่างไร ?
ก. ไม่มีแก่นสาร
ข. หาประโยชน์มิได้
ค. ไม่อาจเห็นธรรม
ง. ไม่ใช่ทางหลุดพ้น
๙. อุปติสสะรู้ที่ประทับพระพุทธเจ้าแล้ว เหตุใดจึงไม่รีบเข้าเฝ้า ?
ก. ต้องไปลาอาจารย์ก่อน
ข. ต้องไปลาพ่อแม่ก่อน
ค. ต้องไปลาสหายก่อน
ง. ต้องไปบอกสหายก่อน
๑๐. พระสารีบุตรบรรลุธรรม เพราะฟังธรรมที่ทรงแสดงแก่ใคร ?
ก. ทีฆนขปริพาชก
ข. สัญชัยปริพาชก
ค. ชัมพุกาชีวก
ง. อุปกาชีวก
๑๑. พวกเดียรถีย์จ้างโจรมาฆ่าพระโมคคัลลานะ เพราะสาเหตุใด ?
ก. มีอิทธิฤทธิ์มาก
ข. เป็นกำลังพระศาสนา
ค. เป็นอัครสาวกเบื้องซ้าย
ง. เป็นอัครสาวกเบื้องขวา
๑๒. ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับพระมหากัสสปะ ?
ก. บิดาชื่อกปิลพราหมณ์
ข. มารดาชื่อสุมนเทวี
ค. มีนามเดิมว่ากัสสปะ
ง. มีอายุเกิน ๑๐๐ ปี
๑๓. พระสาวกรูปใด เป็นตัวแทนพระศาสดาแสดงธรรมโปรดพระเจ้าจันฑปัชโชต ?
ก. พระมหากัจจายนะ
ข. พระมหากัสสปะ
ค. พระอุรุเวลากัสสปะ
ง. พระโมฆราช
๑๔. พระสาวกรูปใด ได้รับเอตทัคคะด้านทรงจีวรเศร้าหมอง ?
ก. พระมหากัสสปะ
ข. พระอุรุเวลกัสสปะ
ค. พระโมฆราช
ง. พระราธะ
๑๕. พระราธะได้รับอุปสมบทด้วยวิธีใด ?
ก. เอหิภิกขุ
ข. รับไตรสรณคมน์
ค. รับโอวาท ๓
ง. ญัตติจตุตถกรรม
๑๖. พระกาฬุทายุ เดิมชื่อว่าอุทายี เพราะเหตุใดจึงเรียกเช่นนั้น ?
ก. เพราะเป็นโรค
ข. เพราะมีผิวดำ
ค. เรียกตามชื่อบิดา
ง. เรียกตามชื่อโคตร
๑๗. ใครเป็นพระมารดาของพระนันทพุทธอนุชา ?
ก. พระนางสิริมหามายา
ข. พระนางปชาบดี
ค. พระนางพิมพา
ง. พระนางกัญจนา
๑๘. พระสาวกรูปใด ปฏิบัติธรรมหวังจะได้นางเทพอัปสร ?
ก. พระอานนท์
ข. พระภัททิยะ
ค. พระนันทะ
ง. พระอนุรุทธะ
๑๙. ราหุล เป็นพระนามที่ตั้งตามหลักการใด ?
ก. หลักมงคลนาม
ข. หลักพิธีขนานนาม
ค. นามที่ฤาษีตั้งให้
ง. คำอุทานของบิดา
๒๐. พระอุบาลีผู้ทรงพระวินัยปิฏก ก่อนบวชมีอาชีพอะไร ?
ก. ช่างจัดสวน
ข. ช่างตัดเสื้อ
ค. ช่างตัดผม
ง. ช่างจัดดอกไม้
๒๑. ใครตัดสินอธิกรณ์เรื่องภิกษุณีมารดาของพระกุมารกัสสปะ ?
ก. พระมหากัสสปะ
ข. พระสารีบุตร
ค. พระอานนท์
ง. พระอุบาลี
๒๒. พระสาวกรูปใด มีบุญมาก แม้คำว่า ไม่มี ก็ไม่เคยได้ยิน ?
ก. พระภัททิยะ
ข. พระอนุรุทธะ
ค. พระมหานามะ
ง. พระอานนท์
๒๓. ประโยชน์ของการขอพรข้อสุดท้ายของพระอานนท์ คืออะไร ?
ก. เพื่อต้องการลาภ
ข. เพื่อต้องการอำนาจ
ค. เพื่อจะทรงจำธรรม
ง. เพื่อแสดงความกตัญญู
๒๔. พระศาสดาตรัสสอนพระโสณโกฬิวิสะ ด้วยอุปมาอะไร ?
ก. ความเมา ๓
ข. ดอกบัว ๓ เหล่า
ค. พิณ ๓ สาย
ง. อุปมา ๓ ประการ
๒๕. บิดามารดาของพระรัฐบาล ยินยอมให้ออกบวชเป็นพระภิกษุได้เพราะสาเหตุใด ?
ก. ต้องการให้เห็นธรรม
ข. ไม่คิดให้ครองเรือน
ค. เข้าใจในความกตัญญู
ง. กลัวจะถึงความตาย
๒๖. พระสาวกรูปใด เป็นเอตทัคคะแสดงธรรมด้วยถ้อยคำไพเราะ ?
ก. พระปิณโฑลภารทวาชะ
ข. พระจูฬปันถก
ค. พระโสณกุฏิกัณณะ
ง. พระลกุณฏกภัททิยะ
๒๗. ใครถูกพวกภิกษุพูดหยอกล้อว่า สามเณรยังไม่อยากสึกหรือ ?
ก. พระลกุณฏกภัททิยะ
ข. พระปิณโฑลภารทวาชะ
ค. พระโสณกุฏิกัณณะ
ง. พระกังขาเรวตะ
๒๘. พระสาวกรูปใด เป็นหลายขอองอนาถปิณฑิกเศรษฐี ?
ก. พระกังขาเรวตะ
ข. พระโกณฑธาน
ค. พระสุภูติ
ง. พระลกุณฏกภัททิ
๒๙. พระสาวกรูปใด มีความถี่ถ้วนในการใช้สอยสมณบริขาร ?
ก. พระกุมารกัสสปะ
ข. พระมหาโกฏฐิตะ
ค. พระโสภิตะ
ง. พระกังขาเรวตะ
๓๐. เมื่อพระวังคีสะทูลของเรียนมนต์ พระพุทธองค์ตรัสว่าอย่างไร ?
ก. ต้องรับเป็นพุทธมามกะก่อน
ข. ต้องรับไตรสรณคมน์ก่อน
ค. ต้องบวชเป็นพระภิกษุก่อน
ง. ต้องไปลาบิดามารดาก่อน
๓๑. พระสาวกรูปใด ปรารถนาจะได้รับโอวาทเท่าเม็ดทรายในกำมือ ?
ก. พระมหาโกฏฐิตะ
ข. พระราหุล
ค. พระกุมารกัสสปะ
ง. พระกังขาเรวตะ
๓๒. พระสาวกรูปใด ตอบพระเจ้าปายาสิผู้ไม่เชื่อว่าโลกอื่นมีจริง ?
ก. พระโสภิตะ
ข. พระมหาโกฏฐิตะ
ค. พระกุมารกัสสปะ
ง. พระปิลินทวัจฉะ
๓๓. พระสาวกรูปใด เป็นผู้ฉลาดในการกล่าวสอนนางภิกษุณี ?
ก. พระนันทกะ
ข. พระสาคตะ
ค. พระมหากัปปินะ
ง. พระอุปเสนะ
๓๔. พระเจ้ามหากัปปินะ มีม้าเร็วไว้ถามข่าวเกี่ยวกับเรื่องอะไร ?
ก. สถานที่ประดับพระศาสดา
ข. การอุบัติของพระพุทธเจ้า
ค. การเกิดของภัยธรรมชาติ
ง. ข่าวสารในการศึกสงคราม
๓๕. พระสาวกรูปใด เป็นต้นบัญญัติในการห้ามภิกษุดื่มสุรา ?
ก. พระสาคตะ
ข. พระอุปเสนะ
ค. พระอุบาลี
ง. พระพากุล
๓๖. พระอุปเสนะ มีความเกี่ยวข้องกับพระสารีบุตรในฐานะใด ?
ก. เป็นอา
ข. เป็นน้า
ค. เป็นพี่
ง. เป็นน้อง
๓๗. พระสาวกรูปใด อยู่ในครรภ์มารดานาน ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน ?
ก. พระสีวลี
ข. พระอุปเสนะ
ค. พระอุบาลี
ง. พระพากุละ
๓๘. พระสาวกรูปใด บรรลุพระอรหัตในขณะจรดมืดโกนครั้งที่ ๓ ?
ก. พระอุปเสนะ
ข. พระเรวตะ
ค. พระสีวลี
ง. พระวักกลิ
๓๙. ใครเป็นพระอรหันต์แล้ว แม้ไม่ได้บวชก็จัดเป็นพระสงฆ์ ?
ก. พระพากุละ
ข. พระพาหิยะทารุจิริยะ
ค. พระวักกลิ
ง. พระขทิรวนิยเรวตะ
๔๐. เพราะเหตุใด พระพากุละได้ชือว่าเป็นคนสองตระกูล ?
ก. ๒ ตระกูลผลัดกันเลี้ยง
ข. ๒ ตระกูลเป็นผู้ให้เกิด
ค. ๒ ตระกูลให้ค่าเลี้ยงดู
ง. ๒ ตระกูลเก็บมาเลี้ยง
ศาสนพิธี
๔๑. ศาสนาพิธี หมายถึงอะไร ?
ก. คำสอนทางศาสนา
ข. วิธีปฏิบัติทางศาสนา
ค. วินัยทางศาสนา
ง. ข้อบัญญัติทางศาสนา
๔๒. พิธีในการอยู่จำพรรษาของพระสงฆ์ หมายถึงข้อใด ?
ก. พิธีเข้าพรรษา
ข. พิธีออกพรรษา
ค. พิธีรักษาศีล
ง. พิธีรักษาธรรม
๔๓. การแสดงความเคารพระหว่างพระเถระผู้ใหญ่กับพระผู้น้อยเรียกว่าอะไร ?
ก. วัสสูปนายิกา
ข. สามีจิกรรม
ค. การอดโทษ
ง. การอธิษฐาน
๔๔. การสวดมนต์ของภิกษุสามเณรทุกเช้าเย็น เรียกว่าอะไร ?
ก. ฟังเทศน์
ข. เจริญจิตภาวนา
ค. ทำวัตร
ง. เจริญพุทธมนต์
๔๕. การฟังเทศน์ จัดเป็นการบำเพ็ญกุศลอย่างหนึ่ง เรียกว่าอะไร ?
ก. สีลมัย
ข. ธัมมัสสวนมัย
ค. ทานมัย
ง. ภาวนามัย
๔๖. อุโบสถกรรมที่ภิกษุร่วมกันทำตั้งแต่ ๔ รูปขึ้นไปเรียกว่าอะไร ?
ก. สังฆอุโบสถ
ข. ปาริสุทธิอุโบสถ
ค. ศีลอุโบสถ
ง. อธิษฐานอุโบสถ
๔๗. การทำบุญสัตตมวารให้แก่คนตาย ตรงกับข้อใด ?
ก. ๗ วัน
ข. ๑๕ วัน
ค. ๕๐ วัน
ง. ๑๐๐ วัน
๔๘. การทำบุญอาหารตามฤดูกาล โดยวิธีจับสลากเรียกว่าอะไร ?
ก. อุเทสภัต
ข. สลากภัต
ค. ปักขิกภัต
ง. สังฆภัต
๔๙. พิธีตักบาตรเทโวโรหณะ ตรงกับวันใด ?
ก. วันเข้าพรรษา
ข. วันออกพรรษา
ค. วันขึ้นปีใหม่
ง. วันสงกรานต์
๕๐. ผ้าที่พระสงฆ์พิจารณาในพิธีทำบุญทอดผ้าป่า เรียกว่าอะไร ?
ก. ผ้าบังสุกุล
ข. ผ้าอาบน้ำฝน
ค. ผ้าจำพรรษา
ง. ผ้าครองกฐิน