ปัญหาและเฉลยวิชาพุทธานุพุทธประวัติ  นักธรรมชั้นเอก พ.ศ. 2547

ถาม ปัญจมหาวิโลกนะ คืออะไร ? มีความเป็นมาอย่างไร ?

ตอบ คือ การพิจารณาถึงความเหมาะสมใหญ่ 5 ประการ ฯ มีความเป็นมาอย่างนี้ คือเมื่อพระมหาสัตว์เป็นสันตุสิตเทวราชอยู่ในดุสิตเทวโลก หมู่เทวดามาทูลอาราธนาให้จุติลงไปบังเกิดในครรภ์พระมารดา ในลำดับนั้น พระมหาสัตว์ยังมิได้ทรงให้ปฏิญญาแก่หมู่เทวดาผู้มาทูลอาราธนา ต่อเมื่อทรงพิจารณาปัญจมหาวิโลกนะแลัว จึงทรงให้ปฏิญญา ฯ


ถาม พระอรหันตสาวกรุ่นแรกที่พระศาสดาทรงส่งไปประกาศพระศาสนา มีจำนวนเท่าไร ? พระองค์ทรงประทานโอวาทแก่ท่านเหล่านั้นโดยย่อว่าอย่างไร ?

ตอบ

พระอรหันตสาวกรุ่นแรกที่พระศาสดาทรงส่งไปประกาศพระศาสนา มีจำนวนทั้งสิ้น 60 รูป ฯ

พระองค์ทรงประทานโอวาทว่า ท่านทั้งหลายจงเที่ยวจาริกไปในชนบท เพื่อประโยชน์และความสุขแก่ชนเป็นอันมาก แต่อย่าไปทางเดียวกัน 2 รูป จงแสดงธรรมมีคุณในเบื้องต้น ท่ามกลาง และที่สุด จงประกาศพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง พร้อมทั้งอรรถและพยัญชนะ ฯ


ถาม พระกาฬุทายี และ กาฬเทวิลดาบส เกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าอย่างไร ?

ตอบ

พระกาฬุทายี เป็นสหชาติของพระพุทธเจ้า ก่อนบวชท่านเป็นอำมาตย์อยู่ในกรุงกบิลพัสดุ์ พระเจ้าสุทโธทนะทรงส่งไปทูลนิมนต์พระพุทธเจ้าให้เสด็จกลับกรุงกบิลพัสดุ์ เมื่อได้อุปสมบทแล้วจึงทูลนิมนต์พระพุทธเจ้าให้เสด็จกลับได้สำเร็จตามพระราชประสงค์ ฯ

กาฬเทวิลดาบสคืออสิตดาบสนั่นเอง เมื่อพระมหาบุรุษประสูติใหม่ๆ ท่านทราบข่าวจึงเข้าไปเยี่ยม ได้เห็นลักษณะของพระราชโอรสต้องด้วยตำรับมหาบุรุษลักษณะ มีความเคารพในพระโอรสอย่างมาก จึงลุกขึ้นกราบลงที่พระบาททั้งสองด้วยศีรษะของตนแล้วกล่าวทำนายพระลักษณะตามมหาบุรุษลักษณะพยากรณศาสตร์ ฯ


ถาม พระอานนท์ได้ดวงตาเห็นธรรมเพราะฟังโอวาทจากใคร ? ท่านผู้ให้โอวาทนั้นเลิศทางไหน ?

ตอบ

  • พระอานนท์ได้ดวงตาเห็นธรรม เพราะฟังโอวาทจากพระปุณณมันตานีบุตรเถระ ฯ
  • พระปุณณมันตานีบุตรเถระนั้น เลิศในทางเป็นพระธรรมกถึก ฯ

ถาม ข้อความว่า “ เราจักไม่พูดคำซึ่งเป็นเหตุเถียงกัน ถือผิดต่อกัน ” พระศาสดาทรงแนะนำใคร ? เพราะทรงเห็นโทษอย่างไร ?

ตอบ ทรงแนะนำพระมหาโมคคัลลานะ ฯ เพราะว่า เมื่อคำซึ่งเป็นเหตุเถียงกันถือผิดต่อกันมีขึ้น ก็จำต้องหวังความพูดมาก เมื่อความพูดมากมีขึ้นก็จะเกิดความคิดฟุ้งซ่าน ครั้นคิดฟุ้งซ่านแล้วก็จะเกิดความไม่สำรวม ครั้นไม่สำรวมแล้วจิตก็จะห่างจากสมาธิ ฯ


ถาม พระพุทธพจน์ว่า “ ทักษิณาอันบริจาคในสงฆ์ย่อมสำเร็จแก่ผู้ตายโดยฐานะ ” นั้น ท่านอธิบายไว้อย่างไร ? การที่ทักษิณาจะสำเร็จประโยชน์แก่ผู้ตายโดยฐานะนั้น ต้องพร้อมด้วยสมบัติ อะไรบ้าง ?

ตอบ

ท่านอธิบายไว้ว่า เปตชนผู้ไปเกิดในกำเนิดอื่น ทั้งที่เป็นทุคติ ทั้งที่เป็นสุคติ ย่อมเป็นอยู่ด้วยอาหารในคติที่เขาเกิด หาได้รับผลแห่งทานที่ทายกอุทิศถึงไม่ ต่อเมื่อไปเกิดในปิตติวิสัยจึงได้รับผลแห่งทานที่อุทิศถึงนั้น ฯ

การที่ทักษิณาจะสำเร็จประโยชน์แก่ผู้ตายโดยฐานะนั้น ต้องพร้อมด้วยสมบัติ 3 ประการคือ

  • การบริจาคไทยธรรมแล้วอุทิศถึงของทายก 1
  • ปฏิคาหกผู้รับไทยธรรมนั้นเป็นทักขิเณยยะ คือผู้ควรรับทักษิณา 1
  • เปตชนนั้นได้อนุโมทนา 1

ถาม อจลเจดีย์คืออะไร ? ตั้งอยู่ที่เมืองอะไร ? เกิดขึ้นเมื่อใด ?

ตอบ คือสถานที่เป็นที่ประดิษฐานแห่งบันไดแก้ว บันไดทอง บันไดเงิน ซึ่งทอดลงมาจากดาวดึงสเทวโลก ฯ ตั้งอยู่ที่เมืองสังกัสสนคร ฯ เกิดขึ้นในวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงสู่มนุษยโลกหลังจากเสด็จประทับจำพรรษาในดาวดึงสเทวโลกแล้ว ฯ


ถาม พระพุทธองค์ทรงรับสั่งกะพระอานนท์ถึงประโยชน์ของการสร้างสถูปแล้วอัญเชิญพระอัฐิธาตุ บรรจุไว้ ณ ท่ามกลางหนทาง 4 แพร่งแห่งถนนใหญ่ไว้อย่างไร ?

ตอบ ทรงรับสั่งไว้อย่างนี้คือ เพื่อเป็นปูชนียสถานให้มนุษย์ผู้สัญจรไปมา เกิดความเลื่อมใสศรัทธา ได้สักการะบูชาด้วยระเบียบดอกไม้ของหอม อภิวาทกราบไหว้ทำจิตให้เลื่อมใสในพระพุทธคุณ อันจักเป็นเหตุให้เกิดประโยชน์และความสุขตลอดกาลนาน ฯ


ถาม พระเจ้าสุทโธทนะทรงบรรลุพระโสดาปัตติผลด้วยพระธรรมเทศนามีใจความว่าอย่างไร ? ทรงบรรลุอริยผลสูงสุดชั้นไหน ?

ตอบ มีใจความว่า ไม่พึงประมาทในบิณฑบาต พึงประพฤติธรรมให้เป็นสุจริต ผู้ประพฤติธรรมย่อมอยู่เป็นสุขทั้งในโลกนี้ทั้งในโลกอื่น ฯ ทรงบรรลุอริยผลสูงสุดชั้นพระอรหัตผล ฯ


ถาม พระบารมี 10 ย่อมอบรมพระอัธยาศัยทำพระหฤทัยให้หนักแน่นจนสามารถพิชิตมารได้ พระบารมี 10 นั้น มีอะไรบ้าง ?

ตอบ มี

  1. ทาน
  2. ศีล
  3. เนกขัมมะ
  4. ปัญญา
  5. วิริยะ
  6. ขันติ
  7. สัจจะ
  8. อธิษฐาน
  9. เมตตา
  10. อุเบกขา ฯ