ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ  นักธรรมชั้นตรี พ.ศ. 2554

ถาม พระภิกษุผู้รักษาพระวินัยดีโดยถูกทางแล้ว ย่อมได้อานิสงส์อะไร ?

ตอบ ย่อมได้อานิสงส์ คือ ความไม่ต้องเดือดร้อนใจ ฯ


ถาม สิกขา สิกขาบท และอาบัติ ได้แก่อะไร ?

ตอบ

  • สิกขา ได้แก่ ข้อที่ภิกษุควรศึกษา มี 3 อย่าง คือ สีลสิกขา จิตตสิกขา และปัญญาสิกขา
  • สิกขาบท ได้แก่ พระบัญญัติมาตราหนึ่ง ๆ
  • อาบัติ ได้แก่ โทษที่เกิดเพราะความละเมิดในข้อที่พระพุทธเจ้าห้าม

ถาม อาการที่ภิกษุจะต้องอาบัติมีอะไรบ้าง ?

ตอบ อาการที่ภิกษุจะต้องอาบัติมีดังนี้

  1. ต้องด้วยไม่ละอาย
  2. ต้องด้วยไม่รู้ว่าสิ่งนี้จะเป็นอาบัติ
  3. ต้องด้วยสงสัยแล้วขืนทำ
  4. ต้องด้วยสำคัญว่าควรในของที่ไม่ควร
  5. ต้องด้วยสำคัญว่าไม่ควรในของที่ควร
  6. ต้องด้วยลืมสติ

ถาม ครุกาบัติ ที่แก้ไขได้ก็มี ที่แก้ไขไม่ได้ก็มี ที่แก้ไขได้ได้แก่อาบัติอะไร ที่แก้ไขไม่ได้ได้แก่อาบัติอะไร ?

ตอบ ที่แก้ไขได้ ได้แก่อาบัติสังฆาทิเสส ที่แก้ไขไม่ได้ ได้แก่อาบัติปาราชิก ฯ


ถาม ภิกษุแกล้งฆ่าสัตว์ให้ตาย ต้องอาบัติอะไร ?

ตอบ

  • ฆ่ามนุษย์ให้ตาย ต้องอาบัติปาราชิก
  • ฆ่าอมนุษย์ให้ตาย ต้องอาบัติถุลลัจจัย
  • ฆ่าสัตว์เดรัจฉานให้ตาย ต้องอาบัติปาจิตตีย์

ถาม ไตรจีวรประกอบด้วยผ้าอะไรบ้าง ? ภิกษุอยู่ปราศจากไตรจีวร ต้องปฏิบัติอย่างไร ?

ตอบ ไตรจีวรประกอบด้วย ผ้าสังฆาฏิ ผ้าอุตตราสงค์ และผ้าอันตรวาสก ฯ ภิกษุอยู่ปราศจากไตรจีวร ต้องสละไตรจีวรผืนที่อยู่ปราศจากนั้น แล้วแสดงอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ เมื่อได้รับผ้ากลับคืนมาแล้ว ต้องอธิษฐานใหม่ ฯ


ถาม จงให้ความหมายของคำต่อไปนี้

  1. อติเรกจีวร
  2. จีวรกาล
  3. อนุปสัมบัน

ตอบ

  1. อติเรกจีวร หมายถึงจีวรที่ไม่ใช่จีวรอธิษฐาน
  2. จีวรกาล หมายถึงคราวที่เป็นฤดูถวายจีวร (คืออยู่จำพรรษาแล้ว ถ้าไม่ได้กรานกฐิน นับแต่วันปวารณาไป 1 เดือน ถ้าได้กรานกฐิน เพิ่มออกไปอีก 4 เดือนในฤดูหนาว)
  3. อนุปสัมบัน หมายถึงบุคคลที่มิใช่ภิกษุ ฯ

ถาม เภสัช 5 ได้แก่อะไรบ้าง ? ภิกษุรับประเคนแล้วเก็บไว้ฉันได้กี่วันเป็นอย่างยิ่ง ?

ตอบ ได้แก่ เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย ฯ เก็บไว้ได้ 7 วัน ฯ


ถาม ภิกษุฉันพลางทำกิจอื่นพลาง จะต้องอาบัติอะไรหรือไม่ ?

ตอบ ต้องอาบัติทุกกฎ ฯ


ถาม อธิกรณ์ คืออะไร ? การตัดสินอธิกรณ์ตามเสียงข้างมาก เรียกว่าอะไร ?

ตอบ อธิกรณ์ คือ เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วจะต้องจัดต้องทำ ฯ การตัดสินอธิกรณ์ตามเสียงข้างมาก เรียกว่าเยภุยยสิกา ฯ