ปัญหาข้อที่ 1
ถาม ในอริยบุคคล 2 พระเสขะผู้ยังต้องศึกษา คือศึกษาเรื่องอะไร ? ผู้ศึกษากำลังสอบธรรมอยู่นี้เรียกว่าพระเสขะได้หรือไม่ ?
ตอบ พระเสขะผู้ยังต้องศึกษา คือศึกษา ในอธิสีล ในอธิจิต และในอธิปัญญา อีกอย่างหนึ่งหมายถึง ต้องศึกษาและต้องปฏิบัติเพื่อมรรคผลเบื้องสูงขึ้นไป ฯ ผู้ศึกษากำลังสอบธรรมอยู่นี้ ยังเรียกว่าพระเสขะไม่ได้ ถ้าไม่ใช่พระอริยบุคคล ๗ จำพวกเบื้องต้น ฯ
ปัญหาข้อที่ 2
ถาม มหาภูตรูปและอุปาทายรูปคืออะไร ?
ตอบ
- มหาภูตรูป คือ รูปใหญ่ ได้แก่ธาตุ 4 มี ปฐวี อาโป เตโช วาโ
- อุปาทายรูป คือรูปอาศัยมหาภูตรูปนั้น
ปัญหาข้อที่ 3
ถาม ไตรวัฏฏะ อันได้แก่ กิเลสวัฏฏะ กัมมวัฏฏะ วิปากวัฏฏะ มีสภาพเกี่ยวเนื่องวนกันไปอย่างไร ? ตัดให้ขาดได้ด้วยอะไร ?
ตอบ อย่างนี้ คือ กิเลสเกิดขึ้นแล้วให้ทำกรรม ครั้นทำกรรมแล้ว ย่อมได้รับวิบากแห่งกรรม เมื่อได้รับวิบาก กิเลสก็เกิดขึ้นอีก วนกันไปอย่างนี้ ฯ ตัดให้ขาดได้ด้วยอรหัตตมรรคญาณ ฯ
ปัญหาข้อที่ 4
ถาม เมตตากับปรานีมีความหมายต่างกันหรือเหมือนกันอย่างไร ? และอย่างไหนกำจัดวิตกอะไร ?
ตอบ เมตตาหมายถึงความรักใคร่หรือความหวังดี ปรานีหมายถึงความปรารถนาให้ผู้อื่นพ้นจากความทุกข์เข้าลักษณะแห่งกรุณา ฯ เมตตากำจัดพยาบาทวิตก ปรานีกำจัดวิหิงสาวิตก ฯ
ปัญหาข้อที่ 5
ถาม ทักขิณา คืออะไร ? ทักขิณานั้น จะบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ ในฝ่ายทายกและในฝ่ายปฏิคาหกนั้น มีอะไรเป็นเครื่องหมาย ?
ตอบ ทักขิณาคือ ของทำบุญ ฯ ทักขิณาจะบริสุทธิ์ มีศีลมีกัลยาณธรรมเป็นเครื่องหมาย ทักขิณาจะไม่บริสุทธิ์ มีทุศีลมีบาปธรรมเป็นเครื่องหมาย ฯ
ปัญหาข้อที่ 6
ถาม บทนมัสการพระธรรมว่า สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม ธมฺมํ นมสฺสามิ ข้าพเจ้านมัสการพระธรรมอันพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสดีแล้ว ที่ว่า ตรัสดีแล้ว นั้นมีอธิบายอย่างไร ?
ตอบ มีอธิบายอย่างนี้คือ ดีทั้งในส่วนปริยัติและดีทั้งในส่วนปฏิเวธ ในส่วนปริยัติได้ชื่อว่าดีเพราะตรัสไม่วิปริต เพราะแสดงข้อปฏิบัติโดยลำดับกัน มีความไพเราะในเบื้องต้น ท่ามกลาง ที่สุด พร้อมทั้งอรรถทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง ในส่วนปฏิเวธนั้น ได้ชื่อว่าดี เพราะปฏิปทากับพระนิพพานย่อมสมควรแก่กันและกัน ฯ
ปัญหาข้อที่ 7
ถาม พระพุทธคุณว่า อรหํ ใช้เป็นคุณบทของพระสาวกได้ด้วยหรือไม่ ? ถ้าได้ จะมีคำอะไรมาประกอบร่วมด้วย เป็นเครื่องหมายให้รู้ว่าเป็นคุณบทของพระศาสดาหรือของพระสาวก ?
ตอบ ได้ ฯ สำหรับพระศาสดา ใช้ว่า อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ แปลว่า พระอรหันต์ผู้ตรัสรู้ชอบเอง สำหรับพระสาวกใช้ว่า อรหํ ขีณาสโว แปลว่า พระอรหันต์ผู้มีอาสวะสิ้นแล้ว ฯ
ปัญหาข้อที่ 8
ถาม คำว่า พระสงฆ์ ในบทสังฆคุณนั้น ท่านประสงค์บุคคลเช่นไร ? จงจำแนกมาดู ?
ตอบ ท่านประสงค์พระอริยบุคคล 4 คู่ 8 บุคคล ซึ่งล้วนแต่ท่านผู้ตั้งอยู่ในมรรคผลทั้งสิ้น คือ พระโสดาปัตติมรรค พระโสดาปัตติผล คู่หนึ่ง พระสกทาคามิมรรค พระสกทาคามิผล คู่หนึ่ง พระอนาคามิมรรค พระอนาคามิผล คู่หนึ่ง พระอรหัตมรรค พระอรหัตผล คู่หนึ่ง ฯ
ปัญหาข้อที่ 9
ถาม พระบาลีว่า “อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา” เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมมีสังขาร ดังนี้ คำว่า สังขาร หมายถึงอะไร ? ได้แก่อะไรบ้าง ?
ตอบ หมายถึงสภาพผู้ปรุงแต่ง ฯ ได้แก่
- ปุญญาภิสังขาร อภิสังขารคือบุญ
- อปุญญาภิสังขาร อภิสังขารคือบาป
- อเนญชาภิสังขาร อภิสังขารคืออเนญชา ฯ
ปัญหาข้อที่ 10
ถาม ครุกรรม คืออะไร ? อนันตริยกรรมกับสมาบัติ 8 เป็นครุกรรมฝ่ายกุศล หรืออกุศล ?
ตอบ ครุกรรม คือ กรรมหนัก ฯ อนันตริยกรรม เป็นครุกรรมฝ่ายอกุศล สมาบัติ 8 เป็นครุกรรมฝ่ายกุศล ฯ