๑. วิชาอุโบสถศีล มีรายละเอียดเนื้อหาเกี่ยวกับศีลในข้อใด ?
ก. ศีล ๕
ข. ศีล ๘
ค. ศีล ๑๐
ง. ศีล ๒๒๗
๒. ในการบำเพ็ญกุศลทุกครั้ง เหตุใดจึงต้องสมาทานศีลก่อน ?
ก. เพราะเป็นเครื่องรองรับกุศลกรรม
ข. เพราะศีลเป็นอุบายทำกายใจให้ตั้งมั่น
ค. เพราะต้องการสืบทอดประเพณีนิยม
ง. เพราะให้ปฏิบัติตามขั้นตอนพิธีกรรม
๓. แผ่นดินเป็นที่รองรับทุกสรรพสิ่ง ศีลเป็นเครื่องรองรับอะไร ?
ก. กุศลจิต
ข. กุศลกรรม
ค. กุศลมูล
ง. กุศลธรรม
๔. แรกจะนับถือพระพุทธศาสนา ควรเปล่งวาจาเข้าถึงพระรัตนตรัย เพื่อปลูกฝังคุณธรรมใดให้เกิดขึ้นก่อน ?
ก. ศีล
ข. ศรัทธา
ค. จาคะ
ง. ปัญญา
๕. คําว่า พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ พระพุทธเจ้าตรัสแก่ใครเป็นครั้งแรก ?
ก. พระเจ้าพิมพิสาร
ข. พระมหาสาวก ๘๐
ค. พระอรหันต์ ๖๐
ง. พระปัญจวัคคีย์ ๕
๖. ในพระรัตนตรัย อะไรรักษาผู้ปฏิบัติไม่ให้ตกไปในทางที่ชั่ว ?
ก. พระพุทธ
ข. พระธรรม
ค. พระสงฆ์
ง. ถูกทุกข้อ
๗. คําว่า สรณะ ในอุโบสถศีล หมายถึงอะไร ?
ก. วัตถุมงคล
ข. พระพุทธรูป
ค. โชควาสนา
ง. พระรัตนตรัย
๘. การถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งที่ระลึก เรียกอะไร ?
ก. อาราธนาศีล
ข. สมาทานศีล
ค. รับสรณคมน์
ง. รักษาศีล ๘
๙. การเข้าถึงสรณคมน์ของใคร มีความมั่นคงมากกว่าของผู้อื่น ?
ก. ปุถุชน
ข. สามัญชน
ค. อริยชน
ง. โลกิยชน
๑๐. การเข้าถึงสรณคมน์ของพุทธศาสนิกชน จะสิ้นสุดลงตอนใด ?
ก. เกิดสงสัย
ข. ศีลขาด
ค. ไม่เชื่อถือ
ง. เสียชีวิต
๑๑. สงสัยว่าพระพุทธเจ้ามีจริงหรือ เป็นเหตุให้สรณคมน์เป็นเช่นไร ?
ก. เศร้าหมอง
ข. บกพร่องไป
ค. ต้องรับใหม่
ง. ขาดลงทันที
๑๒. สรณคมน์เศร้าหมองเพราะความไม่เอื้อเฟื้อ ตรงกับเรื่องใด ?
ก. ไม่เล่าเรียนคำสอน
ข. ไม่เชื่อเรื่องบุญ
ค. ไม่เคารพพระสงฆ์
ง. สงสัยเรื่องนรก
๑๓. ปฏิบัติตนอย่างไร จึงถูกต้องตามหลักการเข้าถึงสรณคมน์ ?
ก. ขอพรดีจากหนูหูทิพย์
ข. ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วถิ่นไทย
ค. สร้างพระพิฆเนศวร์ใหญ่
ง. ให้ปฏิบัติขัดเกลากิเลส
๑๔. พระรัตนตรัยมีความเกี่ยวเนื่องกัน หากเปรียบพระพุทธเจ้าเป็นผู้ชี้ขุมทรัพย์ พระสงฆ์จะเปรียบเหมือนอะไร ?
ก. คนฝังขุมทรัพย์
ข. คนเฝ้าขุมทรัพย์
ค. คนพบขุมทรัพย์
ง. คนใช้สอยทรัพย์
๑๕. ข้อใด เป็นประโยชน์สูงสุดในการเข้าถึงพระรัตนตรัย ?
ก. ได้สวดมนต์
ข. ได้กราบไหว้
ค. ได้ตักบาตร
ง. ได้เห็นธรรม
๑๖. ข้อใด ถือเป็นที่พึ่งสูงสดในทางพระพุทธศาสนา ?
ก. พระรัตนตรัย
ข. ต้นไม้
ค. ภูเขา
ง. แม่น้ำ
๑๗. อุโบสถ เป็นเรื่องบำเพ็ญกุศลความดีของใคร
ก. คฤหัสถ์
ข. ภิกษุ
ค. สามเณร
ง. แม่ชี
๑๘. การรักษาอุโบสถ บัญญัติขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ใด ?
ก. เพื่อทำกิจทางพระพุทธศาสนา
ข. เพื่อหยุดการงานของคฤหัสถ์
ค. เพื่อขัดเกลากิเลสอย่างหยาบ
ง. ถูกทุกข้อ
๑๙. การรักษาอุโบสถ เริ่มปฏิบัติกันมาตั้งแต่เมื่อไร ?
ก. ก่อนพุทธกาล
ข. สมัยพุทธกาล
ค. กึ่งพุทธกาล
ง. หลังพุทธกาล
๒๐. การรักษาอุโบสถ นอกจากให้ทานรักษาศีลและเจริญภาวนาแล้ว ควรทำอย่างไรอีก ?
ก. อยู่ให้ครบเดือน
ข. อยู่ให้ครบพรรษา
ค. อยู่ให้ครบเวลา
ง. อยู่ครึ่งวันพอแล้ว
๒๑. อุโบสถนอกพุทธกาลกับสมัยพุทธกาล เหมือนกันในข้อใด ?
ก. การรักษาศีล ๘
ข. การรักสรณคมน์
ค. การสมาทานศีล
ง. การงดเว้นอาหาร
๒๒. หากรักษาปฏิชาครอุโบสถในจวัน ๘ ค่ำ วันรับจะเป็นวันกี่ค่ำ ?
ก. ๖ ค่ำ
ข. ๗ ค่ำ
ค. ๘ ค่ำ
ง. ๙ ค่ำ
๒๓. อุโบสถที่อุบาสกอุบาสิกานิยมรักษาในวันพระวันหนึ่งกับคืนหนึ่ง เป็นอุโบสถประเภทใด ?
ก. ปกติอุโบสถ
ข. ปฏิชาครอุโบสถ
ค. ปาฏิหาริยอุโบสถ
ง. นิคคัณฐอุโบสถ
๒๔. อุโบสถประเภทใด เทียบได้กับการอยู่จำพรรษาของพระภิกษุ ?
ก. ปกติอุโบสถ
ข. ปฏิชาครอุโบสถ
ค. ปาฏิหาริยอุโบสถ
ง. นิคคัณฐอุโบสถ
๒๕. อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ หมายถึงข้อใด ?
ก. ทิศ ๘
ข. บุคคล ๘
ค. ศีล ๘
ง. มรรค ๘
๒๖. การจะรักษาอุโบสถศีลไม่ให้ขาดไม่ให้ด่างพร้อย ต้องทำอย่างไร ?
ก. สมาทานศีล
ข. งดจากข้อห้าม
ค. ตั้งใจภาวนา
ง. ถือให้ครบเวลา
๒๗. อุโบสถศีลข้อใด ขาดเพราะประพฤติผิดทางวาจา ?
ก. ปาณาติบาต
ข. อทินนาทาน
ค. กาเมสุมิจฉาจาร
ง. มุสาวาท
๒๘. อุโบสถศีลข้อใด ขาดเพราะประพฤติเกี่ยวข้องในกาม ?
ก. สิกขาบทที่ ๑
ข. สิกขาบทที่ ๒
ค. สิกขาบทที่ ๓
ง. สิกขาบทที่ ๔
๒๙. เหตุเป็นที่ตั้งแห่งความประมาทในอุโบสถศีลข้อ ๕ คืออะไร ?
ก. ฆ่าสัตว์
ข. ลักขโมย
ค. พูดปด
ง. ดื่มน้ำเมา
๓๐. คำว่า อพรหมจรรย์ ในอุโบสถศีลข้อที่ ๓ หมายถึงอะไร
ก. การล่วงประเวณี
ข. การร้องเพลง
ค. การดื่มสุราเมรัย
ง. การอดอาหาร
๓๑. สิ่งเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์ในอุโบสถศีลข้อ ๓ คืออะไร ?
ก. แต่งตัว
ข. เสพกาม
ค. พูดปด
ง. ลักขโมย
๓๒. ในอุโบสถศีลข้อ ๖ กำหนดให้ผู้สมาทานรักษาต้องงดเว้นอะไร ?
ก. ขับร้อง
ข. ดูการเล่น
ค. แต่งตัว
ง. อาหารค่ำ
๓๓. อุโบสถศีลข้อที่ ๗ กำหนดให้ผู้สมาทานรักษาต้องเว้นเรื่อนใด ?
ก. เสพกาม
ข. ลักทรัพย์
ค. แต่งตัว
ง. ดื่มเหล้า
๓๔. กาลที่กำหนดให้ผู้รักษาอุโบสถบริโภคอาหารได้ ตรงกับข้อใด ?
ก. ตอนเช้า
ข. ตอนบ่าย
ค. ตอนเย็น
ง. ตอนค่ำ
๓๕. วันอัฏฐมีในคำประกาศอุโบสถ หมายถึงวันกี่ค่ำ ?
ก. วัน ๘ ค่ำ
ข. วัน ๑๐ ค่ำ
ค. วัน ๑๔ ค่ำ
ง. วัน ๑๕ ค่ำ
๓๖. อุโบสถของใคร มีข้อห้ามในบางเรื่องไม่ห้ามในบางเรื่อง ?
ก. อุบาสก
ข. อุบาสิกา
ค. อาชีวก
ง. นิครนถ์
๓๗. ผู้รักษาอุโบสถทายากันยุง ถือว่าไม่ละเมิดศีล เพราะสาเหตุใด ?
ก. ป้องกันตัว
ข. ประเทืองผิว
ค. ให้สบายใจ
ง. ดับกลิ่นกาย
๓๘. การกระทำใด ไม่เป็นข้าศึกต่อการรักษาอุโบสถศีลข้อ ๗ ?
ก. ขับบทเสภา
ข. สวดสรภัญญะ
ค. ดูโขนละคร
ง. ฟ้อนรำขับร้อง
๓๙. ในการรักษาอุโบสถ ห้ามผู้สมาทานรักษานอนบนที่นอนสูงใหญ่ เพื่อป้องกันอะไร ?
ก. ความกำหนัด
ข. อุบัติเหตุ
ค. การนอนมาก
ง. สัตว์ร้าย
๔๐. ในพิธีรักษาอุโบสถ กำหนดให้ผู้สมาทานรักษาทำเรื่องใดก่อน ?
ก. กราบพระรัตนตรัย
ข. สมาทานศีล
ค. ประกาศคำอุโบสถ
ง. เจริญภาวนา
๔๑. ผู้สมาทานอุโบสถไม่รู้ภาษาบาลี ควรปฏิบัติอย่างไร ?
ก. กล่าวเป็นภาษาไทย
ข. กล่าวเป็นภาษาบาลี
ค. กล่าวที่หน้าพระพุทธรูป
ง. ไม่ต้องกล่าวเลยก็ได้
๔๒. ครั้นถึงวันอุโบสถ ควรสมาทานองค์อุโบสถในเวลาใด ?
ก. ตอนเช้า
ข. ตอนเที่ยงวัน
ค. ตอนบ่าย
ง. ตอนกลางคืน
๔๓. ปัจจุบัน นิมยมให้สมาทานศีลอุโบสถกับใคร ?
ก. พระพุทธเจ้า
ข. พระสงฆ์
ค. หลวงปู่ฤาษี
ง. คฤหัสถ์
๔๔. หลังเข้าจำอุโบสถ ปฏิบัติตนอย่างไร บาปอกุศลจึงไม่เกิดขึ้น ?
ก. นึกถึงบ้าน
ข. นึกถึงหลาน
ค. นึกถึงทาน
ง. นึกถึงลูก ๆ
๔๕. เรื่องที่ไม่ควรนำมาพูดในขณะถืออุโบสถศีล เรียกว่าอะไร ?
ก. อนุปุพพีกถา
ข. อริยมรรคกถา
ค. ติรัจฉานกถา
ง. อนุโมทนากถา
๔๖. พูดเรื่องทำมาหากินในขณะถืออุโบสถศีล จัดเป็นอุโบสถใด ?
ก. โคปาลกอุโบสถ
ข. อริยอุโบสถ
ค. นิคคัณฐอุโบสถ
ง. ปกติอุโบสถ
๔๗. อุโบสถประเภทใด มีอานิสงส์มาก เพราะตั้งใจรักษา ?
ก. โคปาลกอุโบสถ
ข. อริยอุโบสถ
ค. นิคคัณฐอุโบสถ
ง. ถูกทุกข้อ
๔๘. อุโบสถประเภทใด เปรียบผู้รักษาเหมือนคนรับจ้างเลี้ยงโค ?
ก. โคปาลกอุโบสถ
ข. ปาฏิหาริยอุโบสถ
ค. นิคคัณฐอุโบสถ
ง. ปฏิชาครอุโบสถ
๔๙. การถืออุโบสถศีลจะได้รับผลมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับอะไร ?
ก. บุญบารมี
ข. โชควาสนา
ค. ชะตาชีวิต
ง. ความตั้งใจ
๕๐. อุโบสถศีล สร้างความปลอดภัยให้แก่มนุษย์อย่างไร ?
ก. ให้ได้เกิดบนสวรรค์
ข. ให้ไม่มีเวรต่อกัน
ค. ให้ทันพระศรีอาริย์
ง. ให้บรรลุนิพพาน