ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม  ธรรมศึกษาชั้นเอก พ.ศ. ๒๕๔๗

๑. คำว่า “ จงมาดูโลกนี้ ” พระองค์ตรัสไว้เพื่อพระประสงค์ใด ?

  1. เพื่อให้เพลิดเพลิน
  2. เพื่อมิให้หลงชม
  3. เพื่อให้สลดใจ
  4. เพื่อให้เห็นโลก

๒. คำว่า “ พวกคนเขลา ” หมายถึงบุคคลในข้อใด ?

  1. คนอันธพาล
  2. คนสมองไม่ดี
  3. คนเสียสติ
  4. คนผู้ไร้วิจารณญาณ

๓. คำว่า “ พวกผู้รู้ ” หมายถึงใคร ?

  1. ผู้รู้โลกธรรม
  2. ผู้รู้โลกตามเป็นจริง
  3. ผู้รู้ค่าของความงาม
  4. ผู้รู้ทันเหตุการณ์

๔. คำว่า “ หาข้องอยู่ไม่ ” มีความหมายตรงกับข้อใด ?

  1. ไม่พัวพันในสิ่งล่อใจ
  2. ไม่เกี่ยวข้องกับใครๆ
  3. ไม่ให้ความสนใจโลก
  4. ไม่ปรารถนาเกิดในโลก

๕. ในเรื่องนิพพิทา อาการเช่นไร เรียกว่า สำรวมจิต ?

  1. ปิดใจไม่รับอารมณ์
  2. ปิดตาหูไม่ดูไม่ฟัง
  3. มนสิการกัมมัฏฐาน
  4. ทำใจมิให้ขัดเคือง

๖. กิเลสกาม คือเจตสิกอันเศร้าหมอง ได้ชื่อว่า มาร เพราะเหตุใด ?

  1. เพราะเป็นเครื่องผูกใจ
  2. เพราะเป็นคุณเศร้าหมอง
  3. เพราะล่อใจให้หลงระเริง
  4. เพราะล้างผลาญคุณความดี

๗. วัตถุกามเป็นอารมณ์เครื่องผูกใจให้ติดอยู่ เรียกว่าอะไร ?

  1. ขันธมาร
  2. บ่วงมาร
  3. มาร
  4. มัจจุมาร

๘. การพิจารณาสังขารในข้อใด ไม่ใช่ปฏิปทาแห่งนิพพิทา ?

  1. ไม่เที่ยง
  2. เป็นทุกข์
  3. ไม่แย้งอัตตา
  4. ไม่อยู่ในอำนาจ

๙. ความหน่ายในขันธ์ ๕ เกิดขึ้นด้วยปัญญา จัดเป็นญาณอะไร ?

  1. ภังคญาณ
  2. วิปากญาณ
  3. อาทีนวญาณ
  4. นิพพิทาญาณ

๑๐. เบญจขันธ์ที่ผันแปรเปลี่ยนแปลงไปในระหว่าง เรียกอะไร ?

  1. ทุกขลักษณะ
  2. อนิจจลักษณะ
  3. อนัตตลักษณะ
  4. ชราลักษณะ

๑๑. เบญจขันธ์ที่ถูกเบียดเบียนบีบคั้นจากผัสสะต่างๆ เรียกอะไร ?

  1. ทุกขลักษณะ
  2. อนิจจลักษณะ
  3. อนัตตลักษณะ
  4. ชราลักษณะ

๑๒. ข้อใด ไม่จัดเป็นสังขารในเรื่องนิพพิทา ?

  1. อารมณ์
  2. นิพพาน
  3. ร่างกาย
  4. วิญญาณ

๑๓. คำว่า “ อนัตตา ” กล่าวหมายเอาข้อใด ?

  1. ธรรมทั้งปวง
  2. สังขารทั้งปวง
  3. เวทนาทั้งปวง
  4. ทุกข์ทั้งปวง

๑๔. นิพัทธทุกข์ ได้แก่ข้อใด ?

  1. การเกิด
  2. การแก่
  3. ความหิว
  4. การตาย

๑๕. อวัยวะของมนุษย์ไม่ทำหน้าที่ตามปกติ จนเกิดความทุกข์ขึ้น จัดเป็นทุกข์ในข้อใด ?

  1. สภาวทุกข์
  2. สันตาปทุกข์
  3. วิปากทุกข์
  4. พยาธิทุกข์

๑๖. สภาวทุกข์ ได้แก่ข้อใด ?

  1. ความหิว
  2. การเกิด
  3. ความเสียใจ
  4. ถูกกิเลสเผาใจ

๑๗. ความทุกข์เพราะถูกไฟโทสะเผา จัดเป็นทุกข์ชนิดใด ?

  1. นิพัทธทุกข์
  2. สหคตทุกข์
  3. วิปากทุกข์
  4. สันตาปทุกข์

๑๘. ทุกขขันธ์ หรือทุกข์รวบยอด เกิดขึ้นเพราะสาเหตุใด ?

  1. เสื่อมลาภ
  2. ถูกลงโทษ
  3. บริหารขันธ์
  4. การหากิน

๑๙. ความเป็นอนัตตาแห่งสังขาร พึงกำหนดรู้ด้วยอาการอย่างไร ?

  1. นั่นว่างเปล่า
  2. นั่นของเรา
  3. นั่นเป็นเรา
  4. นั่นตัวเรา

๒๐. เมื่อรู้ว่า “ สังขารเป็นไปตามเหตุปัจจัย ” พึงปฏิบัติอย่างไร ?

  1. มีสุขทุกเมื่อ
  2. มีอคติทุกเมื่อ
  3. มีสติทุกเมื่อ
  4. วางเฉยทุกเมื่อ

๒๑. การเห็นสังขารทั้งปวงเป็นทุกข์แล้วเบื่อหน่าย เรียกว่าอะไร ?

  1. วิราคะ
  2. นิพพิทา
  3. วิมุตติ
  4. นิพพาน

๒๒. ความหน่ายในสังขาร เป็นเหตุให้อะไรเกิดขึ้น ?

  1. ความหลุดพ้น
  2. ความท้อแท้
  3. ความฟุ้งซ่าน
  4. ความสิ้นกำหนัด

๒๓. ความติดพันห่วงใยในอารมณ์อันเป็นที่รัก เรียกว่าอะไร ?

  1. ความเมา
  2. ความระหาย
  3. อาลัย
  4. ตัณหา

๒๔. ความเวียนเกิดด้วยอำนาจกิเลส กรรม วิบาก เรียกว่าอะไร ?

  1. วัฏฏะ
  2. อาลัย
  3. ตัณหา
  4. วิบาก

๒๕. ข้อใด ไม่ใช่อารมณ์ยั่วยวนให้เกิดความเมา ในเรื่องวิราคะ ?

  1. สุข
  2. ทุกข์
  3. บริวาร
  4. ชีวิต

๒๖. การถือความศักดิ์สิทธิ์อันเนื่องมาจากเทพเจ้า มีการบวงสรวงขอพรจากพระอินทร์เป็นต้น สงเคราะห์เข้าในอาสวะข้อใด ?

  1. กามาสวะ
  2. ภวาสวะ
  3. อวิชชาสวะ
  4. ถูกทุกข้อ

๒๗. วิกขัมภนวิมุตติ เป็นความหลุดพ้นด้วยอำนาจแห่งอะไร ?

  1. ฌาน
  2. ปัญญา
  3. ญาณ
  4. สัทธา

๒๘. ในเรื่องวิสุทธิ ความบริสุทธิ์ภายใน ย่อมมีได้ด้วยอะไร ?

  1. ศีล
  2. สมาธิ
  3. ปัญญา
  4. ลอยบาป

๒๙. การพ้นจากกิเลสด้วยอำนาจอริยมรรค ละกิเลสได้เด็ดขาดจัดเป็นผลของวิมุตติข้อใด ?

  1. ตทังควิมุตติ
  2. สมุจเฉทวิมุตติ
  3. ปฏิปัสสัทธิวิมุตติ
  4. นิสสรณวิมุตติ

๓๐. พิจารณาเห็นสังขารอย่างไร จัดเป็นอุทยัพพยญาณ ?

  1. เห็นว่าไม่เที่ยง
  2. เห็นว่าเป็นทุกข์
  3. เห็นว่าเป็นอนัตตา
  4. เห็นว่าว่างเปล่า

๓๑. พิจารณาเห็นสังขารอย่างไร จัดเป็นภยตูปัฏฐานญาณ ?

  1. เห็นเป็นของหนัก
  2. เห็นเป็นของย่อยยับ
  3. เห็นความเกิดดับ
  4. เห็นเป็นของน่ากลัว

๓๒. ข้อใด เป็นทางนำไปสู่ความดับทุกข์ อันประเสริฐที่สุด ?

  1. อริยทรัพย์ ๗
  2. มรรคมีองค์ ๘
  3. บุญกิริยาวัตถุ ๑๐
  4. โลกธรรม ๘

๓๓. การเลี้ยงชีพโดยงดเว้นทุจริตประกอบสุจริต จัดเป็นวิสุทธิใด ?

  1. จิตตวิสุทธิ
  2. ทิฏฐิวิสุทธิ
  3. กังขาวิตรณวิสุทธิ
  4. สีลวิสุทธิ

๓๔. ธรรมที่ส่งผลต่อกันโดยลำดับจนถึงนิพพาน เหมือนการเดินทางด้วยรถ ๗ ผลัดตรงกับข้อใด ?

  1. วิสุทธิ ๗
  2. อริยทรัพย์ ๗
  3. สัปปุริสธรรม ๗
  4. โพชฌงค์ ๗

๓๕. ผู้มีความสงบในการทำ การพูด การคิด เว้นจากการทำร้ายกัน ชื่อว่ามีธรรมใดอยู่ภายใน ?

  1. วิสุทธิ
  2. วิมุตติ
  3. สันติ
  4. วิราคะ

๓๖. กามคุณ ๕ มีรูปเป็นต้น ได้ชื่อว่าโลกามิส เพราะเหตุใด ?

  1. เพราะเป็นสิ่งน่าปรารถนา
  2. เพราะเป็นเหยื่อตกปลา
  3. เพราะทำให้เกิดในโลกนี้
  4. เพราะล่อใจให้ติดในโลก

๓๗. คนที่ไม่ประมาทและเห็นภัยในความประมาท จัดเป็นคนเช่นไร ?

  1. รู้จักพระนิพพาน
  2. ใกล้พระนิพพาน
  3. เข้าสู่พระนิพพาน
  4. ถึงพระนิพพาน

๓๘. พระดำรัสว่า “ ภิกษุเธอจงวิดเรือนี้ ” เรือในที่นี้ คืออะไร ?

  1. อัตภาพ
  2. กามภพ
  3. รูปภพ
  4. อรูปภพ

๓๙. ข้อว่า ดิน น้ำ ไฟ ลม ไม่มีในนิพพานนั้น ส่องความว่าอะไร ?

  1. นิพพานเป็นโลกหนึ่ง
  2. นิพพานเป็นนามขันธ์
  3. นิพพานมิใช่รูปขันธ์
  4. นิพพานมิใช่เบญจขันธ์

๔๐. ท่านสอนตจปัญจกกัมมัฏฐานก่อนกัมมัฏฐานอื่น เพื่ออะไร ?

  1. เพื่อต่อสู้กับกามฉันท์
  2. เพื่อมิให้ง่วงนอน
  3. เพื่อปฏิบัติได้สะดวก
  4. เพื่อให้บรรลุฌาน

๔๑. กายเหมือนเรือ ใจเหมือนนายเรือ หากปล่อยใจให้หลงระเริง ไม่ฝึกอบรมจิตเป็นเหตุเสียหายอย่างไร ?

  1. ชักจูงให้ประพฤติชั่วทางกาย
  2. ชักจูงให้ประพฤติชั่วทางวาจา
  3. ชักจูงให้อยู่ในความประมาท
  4. ถูกทุกข้อ

๔๒. พิจารณาผม ขน เล็บ ฟัน หนัง โดยอาการอย่างไร จึงจัดเป็นกายคตาสติ ?

  1. โดยเป็นของปฏิกูล
  2. โดยเป็นของน่ารักษา
  3. โดยเป็นของงดงาม
  4. โดยเป็นของมีสีน่ารัก

๔๓. ผู้เจริญเมตตาพึงน้อมนึกถึงคนที่ตนไม่ชอบ ด้วยอาการอย่างไร จึงจะหายเกลียดชัง ?

  1. อย่านึกถึงเขาเลยดีกว่า
  2. อย่าคบค้าสมาคมด้วย
  3. นึกถึงความดีที่เขามีอยู่
  4. หลีกหนีเสียให้ห่างไกล

๔๔. ผู้เจริญเมตตา เมื่อจะแผ่โดยเจาะจง พึงน้อมใจนึกถึงใครก่อน ?

  1. บิดา มารดา
  2. ครู อาจารย์
  3. สามี ภรรยา
  4. บุตร ธิดา

๔๕. ผู้เจริญกรุณา พึงกำหนดสัตว์ชนิดใดเป็นอารมณ์ ?

  1. สัตว์เลี้ยง
  2. สัตว์บาดเจ็บ
  3. สัตว์น่ารัก
  4. สัตว์ทุกจำพวก

๔๖. ผู้เจริญกรุณาอยู่เนืองๆ ย่อมกำจัดอะไรได้ ?

  1. พยาบาท
  2. อภิชฌา
  3. กามราคะ
  4. วิหิงสา

๔๗. การบริกรรมนึกว่า “ สัตว์ทั้งหลาย จงอย่าเสื่อมวิบัติไปจากสุขสมบัติที่ตนได้แล้วเลย ” เป็นลักษณะแห่งพรหมวิหารข้อใด ?

  1. เมตตา
  2. กรุณา
  3. มุทิตา
  4. อุเบกขา

๔๘. ผู้เจริญพุทธานุสสติ ควรระลึกถึงอะไร ?

  1. ประวัติของพระพุทธเจ้า
  2. คำสอนของพระพุทธเจ้า
  3. พระรูปของพระพุทธเจ้า
  4. พระคุณของพระพุทธเจ้า

๔๙. ข้อใด ไม่ใช่หัวข้อของสติปัฏฐาน ๔ ?

  1. กาย
  2. สัญญา
  3. จิต
  4. ธรรม

๕๐. ผู้เจริญกัมมัฏฐานไม่ได้ผลตามที่ต้องการ เพราะสาเหตุใด ?

  1. มีเรื่องกังวลใจ
  2. มีทรัพย์สมบัติมาก
  3. ไม่อยู่ในป่าช้า
  4. เป็นคนเจ้าอารมณ์