ปัญหาข้อที่ 1
ถาม พุทธานุพุทธประวัติ ให้ความรู้แก่ผู้ศึกษาทางใดบ้าง ? จงอธิบายพอได้ใจความ
ตอบ พุทธานุพุทธประวัติ ให้ความรู้แก่ผู้ศึกษา ดังนี้
- ทางประวัติศาสตร์ เช่นความเป็นไปของบ้านเมืองในครั้งพุทธกาล และลัทธิธรรมเนียมของประชาชนในสมัยนั้น
- ทางจรรยาของพระพุทธเจ้า และจรรยาของเหล่าพระอริยสาวก
- ทางธรรมวินัยที่ปรากฏในตำนานและความเป็นมาแห่งศาสนธรรม พร้อมทั้งตัวอย่างการบำรุงพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรือง
ปัญหาข้อที่ 2
ถาม การที่พระพุทธองค์ทรงเลิกการทรมานพระวรกายแล้วกลับมาเสวยพระกระยาหาร เพราะทรงพิจารณาเห็นอย่างไร ?
ตอบ เพราะทรงพิจารณาเห็นว่า คนที่ไม่บริโภคอาหารจนร่างกายหมดกำลัง ไม่สามารถบำเพ็ญเพียรทางจิตได้ ฯ
ปัญหาข้อที่ 3
ถาม อาสยะ และ ปโยคะ ในสัตตูปการสัมปทา หมายถึงอะไร ?
ตอบ
- อาสยะ หมายถึง ความมีพระหฤทัยเยือกเย็นด้วยความกรุณา ปรารถนาคุณประโยชน์อยู่เป็นนิตย์ แม้ในบุคคลที่ทำผิดต่อพระองค์ มีพระเทวทัตเป็นต้น ก็ยังทรงกรุณา
- ปโยคะ หมายถึง ความมีพระหฤทัยมิได้มุ่งหวังต่ออามิส เทศนาสั่งสอนสัตว์ด้วยข้อปฏิบัติคือ ศีล สมาธิ ปัญญา ฯ
ปัญหาข้อที่ 4
ถาม ดวงตาเห็นธรรมปราศจากธุลี เกิดขึ้นแก่พระโกณฑัญญะความว่าอย่างไร ? ในขณะนั้น ท่านเป็นพระอริยบุคคลชั้นไหน ?
ตอบ ความว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมดมีความดับไปเป็นธรรมดา ฯ ในขณะนั้น ท่านเป็นพระอริยบุคคลชั้นพระโสดาบัน ฯ
ปัญหาข้อที่ 5
ถาม พระศาสดาทรงแสดงอนุปุพพีกถา และอริยสัจ 4 ตามลำดับ แก่บุคคลผู้มีคุณสมบัติเช่นไร ?
ตอบ แก่ผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้คือ
- เป็นมนุษย์
- เป็นคฤหัสถ์
- มีอุปนิสัยแก่กล้า ควรบรรลุโลกุตรคุณ
ปัญหาข้อที่ 6
ถาม “สิ่งทั้งปวงไม่ควรแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ชอบใจหมด” เป็นคำพูดของใคร ? พระพุทธองค์ตรัสตอบว่าอย่างไร ?
ตอบ เป็นคำพูดของทีฆนขะ อัคคิเวสสนโคตร ฯ พระพุทธองค์ตรัสตอบว่า ถ้าอย่างนั้น ความเห็นอย่างนั้นก็ต้องไม่ควรแก่ท่าน ท่านก็ต้องไม่ชอบความเห็น
อย่างนั้น ฯ
ปัญหาข้อที่ 7
ถาม พระพุทธโอวาท 3 ข้อ ที่ทรงประทานแก่พระมหากัสสปะว่าอย่างไร ? จัดเข้าในการอุปสมบทวิธีใด ?
ตอบ พระโอวาท 3 ข้อว่าดังนี้
- กัสสปะ ท่านพึงศึกษาว่าเราจักเข้าไปตั้งความละอายและความยำเกรงไว้ในภิกษุทั้งที่เป็นผู้เฒ่า ทั้งที่เป็นผู้ใหม่ ทั้งที่เป็นปานกลาง อย่างแรงกล้า
- เราจักฟังธรรมอันใดอันหนึ่งซึ่งประกอบด้วยกุศล เราจักเงี่ยโสตฟังธรรมนั้น พิจารณาเนื้อความ
- เราจักไม่ละสติเป็นไปในกาย คือพิจารณากายเป็นอารมณ์ ฯ
จัดเข้าในเอหิภิกขุอุปสมบทวิธี ฯ
ปัญหาข้อที่ 8
ถาม พระพุทธเจ้าตรัสสอนพระราธะว่า “สิ่งใดเป็นมาร ท่านจงละความกำหนัดพอใจในสิ่งนั้นเสีย” มารในที่นี้หมายถึงอะไร ?
ตอบ หมายถึง รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ฯ
ปัญหาข้อที่ 9
ถาม อายุสังขาราธิษฐานกับการปลงอายุสังขาร หมายถึงอะไร ? พระพุทธเจ้าทรงกระทำที่ไหน ?
ตอบ
อายุสังขาราธิษฐาน หมายถึงการที่พระพุทธเจ้าทรงตั้งพระหฤทัยว่า จักดำรงพระชนม์อยู่แสดงธรรมสั่งสอนมหาชน จนกว่าพุทธบริษัทจะตั้งมั่น และได้ประกาศพระศาสนาให้แพร่หลายมั่นคง สำเร็จประโยชน์แก่มหาชน
การปลงอายุสังขาร หมายถึงการที่พระพุทธเจ้าทรงกำหนดวันปรินิพพาน นับแต่วันเพ็ญเดือน 3 ไปอีก 3 เดือน ฯ
อายุสังขาราธิษฐานทรงกระทำที่อชปาลนิโครธ ใกล้สถานที่ตรัสรู้
การปลงอายุสังขารทรงกระทำที่ปาวาลเจดีย์ เมืองไพศาลี ฯ
ปัญหาข้อที่ 10
ถาม การทำสังคายนาครั้งแรก เกิดขึ้นหลังจากปรินิพพานล่วงแล้วกี่เดือน ? ใช้เวลาเท่าไร ? ใครทำหน้าที่ปุจฉาและวิสัชนา ?
ตอบ การทำสังคายนาครั้งแรก เกิดขึ้นหลังจากปรินิพพานล่วงแล้ว 3 เดือน ฯ ใช้เวลา 7 เดือน ฯ พระมหากัสสปะทำหน้าที่ปุจฉา พระอุบาลีทำหน้าที่วิสัชนาพระวินัย พระอานนท์ทำหน้าที่วิสัชนาพระสูตรและพระอภิธรรม ฯ