ธรรม 2

ธรรม 2
ธรรม คือ สภาวะหรือปรากฏการณ์ที่มีอยู่จริงตามธรรมชาติ เมื่อกำหนดด้วยความแตกต่างของธรรมที่เป็นรูปและนาม จะแยกเป็น 2 อย่าง คือ
- รูปธรรม สภาวะอันเป็นรูป
- อรูปธรรม สภาวะอันมิใช่รูป
รูปธรรม
รูปธรรม คือ สภาวะอันเป็นรูป สิ่งที่เป็นรูป ได้แก่ สภาวะที่สามารถรับรู้ได้ด้วยประสาททั้ง 5 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ซึ่งก็ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ซึ่งก็คือรูปขันธ์ทั้งหมดนั่นเอง
อรูปธรรม
อรูปธรรม คือ สภาวะอันมิใช่รูป สิ่งที่ไม่มีรูป หมายเอาสิ่งที่ไม่สามารถรับรู้ได้ด้วยประสาททั้ง 5 คือ ตา หู จมูก ลิ้น และกาย แต่สามารถรับรู้ได้ด้วยใจ เช่น ความโกรธ ความเกลียด ความรัก ความหงุดหงิด เป็นต้น หมายเอานามขันธ์ 4 คือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ รวมไปถึงพระนิพพาน
ธรรม 2 อีกหมวดหนึ่ง

ธรรมหมวดนี้กำหนดด้วยความแตกต่างของธรรมที่เป็นวิสัยของโลกและพ้นวิสัยของโลก แบ่งเป็น 2 ประการ คือ
- โลกิยธรรม หรือ โลกียธรรม ธรรมอันเป็นวิสัยของโลก
- โลกุตรธรรม ธรรมอันพ้นวิสัยของโลก หรือ สภาวะที่พ้นจากโลก
โลกิยธรรม
โลกิยธรรม หรือ โลกียธรรม แปลว่า ธรรมอันเป็นวิสัยของโลก หรือ สภาวะที่เนื่องในโลก หมายถึง ธรรมที่ยังนำพาผู้ปฏิบัติให้เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพทั้ง 3 คือ กามภพ รูปภพ และอรูปภพ คือเป็นธรรมที่ยังเกี่ยวข้องอยู่กับเรื่องของกาม ตัณหา ทิฏฐิ อวิชชา ยังไม่สามารถนำพาผู้ปฏิบัติให้พ้นจากทุกข์ได้อย่างแท้จริง หมายเอาขันธ์ 5 ที่เป็นสภาวะทั้งหมด
โลกุตรธรรม
โลกุตรธรรม แปลว่า ธรรมอันมิใช่วิสัยของโลก หรือ สภาวะที่พ้นจากโลก หมายถึง ธรรมหรือสภาวะที่นำพาผู้ปฏิบัติให้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดในภพทั้ง 3 คือ กามภพ รูปภพ และ อรูปภพ สามารถนำพาผู้ปฏิบัติให้หลุดพ้นจากทุกข์อย่างแท้จริง หมายเอาโลกุตรธรรม 9 ประการ คือ มรรค 4 ผล 4 และ นิพพาน 1
ธรรม 2 อีกหมวดหนึ่ง

ธรรมหมวดนี้กำหนดด้วยความแตกต่างของธรรมที่ถูกปรุงแต่งและไม่ถูกปรุงแต่ง แบ่งเป็น 2 ประการ คือ
- สังขตธรรม ธรรมอันปัจจัยปรุงแต่ง
- อสังขตธรรม ธรรมอันปัจจัยไม่ได้ปรุงแต่ง
สังขตธรรม
สังขตธรรม แปลว่า ธรรมอันปัจจัยปรุงแต่ง หรือสิ่งที่ถูกปัจจัยปรุงแต่ง หมายเอาขันธ์ 5 ทั้งหมด คือทุกอย่างที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม ทั้งดี ทั้งชั่ว ทั้งที่เป็นกลาง ๆ ยกเว้นพระนิพพาน เพราะสิ่งทั้งหมดนั้นล้วนเป็นไปตามเงื่อนไขของปัจจัย มีความเกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงไปในท่ามกลาง และแตกสลายไปในที่สุด
สังขตลักษณะ หรือ เครื่องหมายที่ทำให้กำหนดรู้ได้ว่าเป็นสังขตธรรม มี 3 อย่าง คือ
- ความเกิดปรากฏ คือ มีความเกิด
- ความแตกดับปรากฏ คือ มีการแตกสลายไป
- เมื่อดำรงอยู่ ความผันแปรเปลี่ยนแปลงย่อมปรากฏ
อสังขตธรรม
อสังขตธรรม แปลว่า ธรรมอันปัจจัยไม่ได้ปรุงแต่ง หรือ สภาวะที่ไม่ถูกปรุงแต่ง ได้แก่ พระนิพพาน เพราะไม่ได้เกิดจากปัจจัยปรุงแต่ง ไม่ได้เป็นไปตามเงื่อนไขของปัจจัย
อสังขตลักษณะ หรือ เครื่องหมายที่ทำให้กำหนดรู้ได้ว่าเป็นอสังขตธรรม มี 3 อย่าง คือ
- ความเกิดไม่ปรากฏ
- ความแตกดับไม่ปรากฏ
- เมื่อดำรงอยู่ ความผันแปรเปลี่ยนแปลงไม่ปรากฏ
ธรรม 2 อีกหมวดหนึ่ง

ธรรมหมวดนี้กำหนดด้วยความแตกต่างของธรรมที่ถูกยึดและธรรมที่ไม่ถูกยึด แบ่งเป็น 2 อย่าง คือ
- อุปาทินนธรรม ธรรมที่ถูกยึด
- อนุปาทินนธรรม ธรรมที่ไม่ถูกยึด
อุปาทินนธรรม
อุปาทินนธรรม แปลว่า ธรรมที่ถูกยึด หมายถึง ธรรมที่กรรมอันสัมปยุตด้วยตัณหาและทิฏฐิเข้ายึดครอง ได้แก่ นามขันธ์ 4 ที่เป็นวิบาก และรูปที่เกิดแต่กรรมทั้งหมด
อนุปาทินนธรรม
อนุปาทินนธรรม แปลว่า ธรรมที่ไม่ถูกยึด หมายถึง ธรรมที่กรรมอันสัมปยุตด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่เข้ายึดครอง ได้แก่ นามขันธ์ 4 ส่วนที่เหลือ ที่ไม่เป็นวิบาก รูปที่มิใช่เกิดแต่กรรม และโลกุตรธรรมทั้งหมด