ปัจจัยที่ทำให้เกิดสัมมาทิฏฐิหรือแนวความคิดที่ถูกต้อง หมายเอาต้นทางของปัญญาและความดีทั้งปวง แบ่งตามสาเหตุหรือสิ่งกระตุ้นมี 2 ประการ คือ
- ปรโตโฆสะ เสียงจากผู้อื่น
- โยนิโสมนสิการ การคิดพิจารณาอย่างรอบคอบ
ปรโตโฆสะ
ปรโตโฆสะ คือ เสียงจากผู้อื่น หมายถึง การกระตุ้นเตือนจากภายนอกหรือจากคนอื่น คือการรับฟังคำแนะนำสั่งสอนจากผู้อื่น เช่น การเล่าเรียน การศึกษาหาความรู้ การสนทนาซักถาม การฟังคำบอกเล่าของผู้อื่น การสดับรับฟังสัทธรรมจากผู้เป็นกัลยาณมิตร เป็นหนทางหนึ่งที่จะทำให้เรามีสัมมาทิฏฐิคือความเห็นชอบตามคลองธรรมได้
การฟังคำแนะนำจากผู้อื่นนั้น เน้นการฟังจากกัลยาณมิตร จึงจะเป็นทางแห่งสัมมาทิฏฐิ
โยนิโสมนสิการ
โยนิโสมนสิการ คือ การคิดพิจารณาอย่างรอบคอบ หมายถึง การใช้ความคิดที่ถูกวิธี คิดอย่างแยบคายโดยใช้เหตุผล มองสิ่งทั้งหลายด้วยความคิดพิจารณาสืบค้นถึงต้นเค้า สาวหาเหตุผลจนตลอดสาย แยกแยะออกพิเคราะห์ดูด้วยปัญญาที่คิดเป็นระเบียบและโดยอุบายวิธี ให้เห็นสิ่งนั้นๆ หรือปัญหานั้นๆ ตามสภาวะและตามความสัมพันธ์แห่งเหตุปัจจัย
บางทีการรับฟังผู้อื่นแต่เพียงอย่างเดียวนั้น อาจทำให้ได้รับข้อมูลที่ผิดพลาดได้ จำเป็นนต้องใช้โยนิโสมนสิการคือการคิดพิจารณาโดยแยบคายร่วมด้วย จึงจะเป็นทางก่อให้เกิดสัมมาทิฏฐิอย่างแท้จริง
- ปรโตโฆสะ เปรียบเสมือนแสงสว่างที่นำทาง
- โยนิโสมนสิการ เปรียบเสมือนดวงตาที่ช่วยให้มองเห็นทาง
สัมมาทิฏฐิ เป็นสิ่งที่สำคัญสำคัญมากสำหรับการดำรงชีวิต เพราะเป็นเครื่องช่วยให้ชีวิตดำเนินไปในทางที่ดี ถูกต้อง ไม่ผิดทาง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จาก ปรโตโฆสะ และ โยนิโสมนสิการ ดังกล่าวแล้ว
เมื่อนำปัจจัยให้เกิดสัมมาทิฏฐิทั้ง 2 ประการมาบรณาการกัน ทำให้สรุปแนวทางในการสร้างสัมมาทิฏฐิดังนี้
- ศึกษาธรรมะจากพระไตรปิฎกหรือจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ
- ฟังคำสอนจากพระภิกษุผู้ทรงศีลทรงธรรมหรือผู้รู้
- พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับกัลยาณมิตร
- ฝึกคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล
- ตั้งคำถาม หาคำตอบ
- ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ
- พิสูจน์ด้วยตัวเอง