ปัญหาและเฉลยวิชาวินัยบัญญัติ  นักธรรมชั้นตรี พ.ศ. 2552

ถาม พุทธบัญญัติและอภิสมาจาร คืออะไร ? ทั้ง 2 รวมเรียกว่าอะไร ?

ตอบ พุทธบัญญญัติ คือข้อห้ามที่พระพุทธเจ้าทรงตั้งขึ้น เพื่อป้องกันความประพฤติเสียหาย และวางโทษแก่ภิกษุผู้ล่วงละเมิดด้วยปรับอาบัติหนักบ้าง เบาบ้าง ส่วนอภิสมาจาร คือขนบธรรมเนียมที่ทรงแต่งตั้งขึ้น เพื่อชักนำความประพฤติของภิกษุสงฆ์ให้ดีงาม ฯ ทั้ง 2 นี้รวมเรียกว่า พระวินัย ฯ


ถาม อาบัติ คืออะไร ? อาบัติที่เป็นโลกวัชชะและที่เป็นปัณณัตติวัชชะหมายความว่าอย่างไร ? จงยกตัวอย่างประกอบด้วย

ตอบ

อาบัติ คือ โทษที่เกิดเพราะความละเมิดในข้อที่พระพุทธเจ้าห้าม ฯ

อาบัติที่เป็นโลกวัชชะหมายความว่า อาบัติที่มีโทษซึ่งภิกษุทำเป็นความผิดความเสีย คนสามัญทำก็เป็นความผิดความเสียเหมือนกัน เช่น ทำโจรกรรม เป็นต้น ส่วนที่เป็นปัณณัตติวัชชะหมายความว่า อาบัติที่มีโทษเฉพาะภิกษุทำ แต่คนสามัญทำไม่เป็นความผิดความเสีย เช่น ขุดดิน เป็นต้น ฯ


ถาม สิกขากับสิกขาบท ต่างกันอย่างไร ? อย่างไหนมีเท่าไร ? อะไรบ้าง ?

ตอบ สิกขา คือ ข้อที่ภิกษุต้องศึกษา มี 3 ได้แก่ สีลสิกขา จิตตสิกขา ปัญญาสิกขา ส่วนสิกขาบท คือ พระบัญญัติมาตราหนึ่ง ๆ เป็นสิกขาบทหนึ่ง ๆ มี 227 สิกขาบท ได้แก่ ปาราชิก 4 สังฆาทิเสส 13 อนิยต 2 นิสสัคคิยปาจิตตีย์ 30 ปาจิตตีย์ 92 ปาฏิเทสนียะ 4 เสขิยะ 75 และ อธิกรณสมถะ 7 ฯ


ถาม คำว่า อาบัติที่ไม่มีมูล กำหนดโดยอาการอย่างไร ? ภิกษุโจทภิกษุด้วยอาบัติไม่มีมูลต้องอาบัติอะไร ?

ตอบ กำหนดโดยอาการ 3 คือ ไม่ได้เห็นเอง 1 ไม่ได้ยินเอง 1 ไม่ได้เกิด รังเกียจสงสัย 1 ว่าภิกษุนั้นต้องอาบัติชื่อนั้น ฯ โจทด้วยอาบัติปาราชิกต้องอาบัติสังฆาทิเสส โจทด้วยอาบัติอื่นจากอาบัติปาราชิกต้องอาบัติปาจิตตีย์ ฯ


ถาม ในสิกขาบทที่ 2 แห่งอาบัติปาราชิก ทรัพย์เป็นเหตุให้ต้องอาบัติปาราชิก อาบัติถุลลัจจัย และอาบัติทุกกฏ มีกำหนดราคาไว้เท่าไร ?

ตอบ มีกำหนดราคาไว้ดังนี้

  • ทรัพย์ มีราคาตั้งแต่ 5 มาสกขึ้นไป เป็นเหตุให้ต้องอาบัติปาราชิก
  • ทรัพย์ มีราคาไม่ถึง 5 มาสก แต่มากกว่า 1 มาสก เป็นเหตุให้ต้องอาบัติถุลลัจจัย
  • ทรัพย์ มีราคาตั้งแต่ 1 มาสกลงมา เป็นเหตุให้ต้องอาบัติทุกกฏ ฯ

ถาม ผ้าไตรครอง มีอะไรบ้าง ? ต่างจากอติเรกจีวรอย่างไร ?

ตอบ มี สังฆาฏิ อุตตราสงค์ อันตรวาสก ฯ ต่างกันอย่างนี้ ผ้าไตรครองเป็นผ้าที่ภิกษุอธิษฐาน มีจำนวนจำกัด คือ 3 ผืน ส่วนอติเรกจีวร คือผ้าที่นอกเหนือจากผ้าไตรครอง มีได้ไม่จำกัดจำนวน ฯ


ถาม พระ ก. นำเบียร์มาให้พระ ข. ดื่ม โดยหลอกว่าเป็นน้ำอัดลม พระ ข. หลงเชื่อจึงดื่มเข้าไป ถามว่า พระ ก. และพระ ข. ต้องอาบัติอะไรหรือไม่ ?

ตอบ พระ ก. เป็นอาบัติปาจิตตีย์เพราะพูดปด พระ ข. เป็นอาบัติปาจิตตีย์เพราะดื่มน้ำเมา แม้ไม่รู้ก็ต้องอาบัติ เพราะสิกขาบทนี้เป็นอจิตตกะ ฯ


ถาม ภิกษุนำตั่งของสงฆ์ไปตั้งใช้ในที่แจ้ง จะหลีกไปสู่วัดอื่นต้องทำอย่างไร จึงจะไม่เป็นอาบัติ ?

ตอบ ต้องเก็บด้วยตนเอง หรือใช้ให้ผู้อื่นเก็บ หรือมอบหมายให้ผู้อื่น จึงจะไม่เป็นอาบัติ ฯ


ถาม ลักษณะการประเคนประกอบด้วยองค์อะไรบ้าง ? การช่วยกันยกโต๊ะอาหารขึ้นประเคนก็ดี การจับผ้าปูโต๊ะประเคนก็ดี ทั้ง 2 วิธีนี้ถูกต้องหรือไม่ ? เพราะเหตุไร ?

ตอบ ประกอบด้วยองค์ต่อไปนี้

  1. ของที่จะพึงประเคนนั้นไม่ใหญ่โตหรือหนักเกินไป พอคนปานกลางยกได้คนเดียว
  2. ผู้ประเคนเข้ามาอยู่ในหัตถบาส
  3. เขาน้อมเข้ามา
  4. กิริยาที่น้อมเข้ามาให้นั้น ด้วยกายก็ได้ ด้วยของเนื่องด้วยกายก็ได้ ด้วยโยนให้ก็ได้
  5. ภิกษุรับด้วยกายก็ได้ ด้วยของเนื่องด้วยกายก็ได้ ฯ

การช่วยกันยกโต๊ะอาหารขึ้นประเคนก็ดี การจับผ้าปูโต๊ะประเคนก็ดี ไม่ถูกทั้ง 2 วิธี เพราะไม่ต้องลักษณะองค์ประเคน คือ การช่วยกันยกโต๊ะอาหารขึ้นประเคนผิดลักษณะองค์ที่ 1 การจับผ้าปูโต๊ะประเคนผิดลักษณะองค์ที่ 3 ฯ


ถาม อธิกรณ์ คืออะไร ? เมื่อเกิดขึ้นแล้วต้องทำอย่างไร ?

ตอบ คือ เรื่องที่เกิดขึ้นแล้วจะต้องจัดต้องทำ ฯ ต้องระงับด้วยอธิกรณสมถะอย่างใดอย่างหนึ่งตามสมควรแก่อธิกรณ์นั้น ๆ ฯ