กระทู้ธรรม “อตฺตา หเว ชิตํ เสยฺโย”

อตฺตา หเว ชิตํ เสยฺโย
ชนะตนนั่นแหละเป็นดี
บัดนี้ จักได้อธิบายขยายเนื้อความแห่งกระทู้ธรรมภาษิตที่ได้ลิขิตไว้ ณ เบื้องต้น พอเป็นแนวทางแห่งการศึกษาและประพฤติปฏิบัติ สำหรับผู้สนใจในทางธรรมเป็นลำดับสืบต่อไป
คำว่า “ชนะตน” หมายถึง ชนะใจตนเอง ชนะกิเลสที่หลอกให้โลภ ให้โกรธ ให้หลง เพราะโดยธรรมดา มนุษย์เราแพ้กิเลสอยู่ตลอดเวลา
ในขณะที่เราเอาชนะในการแข่งขันกีฬา เราดีใจ แต่เราหารู้ไม่ว่า เรากำลังพ่ายแพ้ให้กับความหลง
ในขณะที่เราชนะคู่แข่งทางธุรกิจ เรากระหยิ่มยิ้มย่อง แต่เราหารู้ไม่ว่า เรากำลังพ่ายแพ้ให้กับความโลภ
ในขณะที่เราได้ชัยชนะจากการสู้รบปรบมือกับศรัตรูคู่อาฆาต เราสะใจ แต่เราหารู้ไม่ว่า เรากำลังพ่ายแพ้ให้กับความโกรธ
จะเห็นได้ว่า ชัยชนะภายนอก หรือชัยชนะในทางโลก ไม่ว่าเราจะชนะอะไร ชนะใคร ชนะในเรื่องใดก็ตาม เรายังพ่ายแพ้ให้กับกิเลสอยู่ตลอดเวลา
ดังนั้น การชนะภายนอกนั้นจึงถือว่าเป็นชัยชนะที่ไม่ประเสริฐอะไร เป็นแต่เพียงการชิงดีชิงเด่นกันตามกระแสโลกเท่านั้น ชนะแล้วก็กลับแพ้ได้ ไม่แน่นอน
แต่การชนะใจตัวเอง หรือการชนะกิเลสที่กลุ้มรุมจิตใจของเรานี่สิ ถึงจะถือว่าเป็นชัยชนะที่ประเสริฐ
เมื่อใดเราเอาชนะความโลภ ความโกรธ ความหลง ที่คอยกัดกร่อนจิตใจของเราได้แล้ว เมื่อนั้น ชัยชนะทางโลกอื่น ๆ ก็จะไม่อยู่ในความคิดของเราอีกเลย กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลย
และเราจะได้ชื่อว่า เป็นผู้ชนะที่แท้จริง ไม่ต้องกลับมาแพ้อีกต่อไป และจะได้รับความสุขที่ถาวร
แต่การที่บุคคลคนหนึ่งจะเอาชนะตนเองได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย การที่จะเอาชนะตนเองได้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องฝึกตนเองให้ได้ เมื่อใดที่เราสามารถฝึกตนเองได้แล้ว เมื่อนั้น ย่อมได้ชื่อว่า ชนะตนเอง ดังนั้น พึงชนะตนเองด้วยการฝึกตน เพราะตนเองนี่แหละ ฝึกได้ยากนัก สมดังพุทธศาสนสุภาษิตที่มาใน ขุททกนิกาย ธรรมบท ว่า
อตฺตา หิ กิร ทุทฺทโม
ได้ยินว่า ตนแล ฝึกได้ยาก
ธรรมดามนุษย์เรามีความสามารถในการฝึกผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการฝึกสัตว์ เช่น ฝึกช้าง ฝึกม้าไว้ใช้งาน ฝึกวัว ฝึกควาย ฝึกลิง บรรดามี มนุษย์เราสามารถฝึกได้ทั้งนั้น
หรือแม้แต่ฝึกคน คนเราฝึกกันได้ไม่ยากนัก ฝึกทหาร ฝึกตำรวจ ฝึก รด. เราฝึกคนอื่น หรือคนอื่นฝึกเรา เราคงผ่านมาแล้วกันทั้งนั้น
แต่สิ่งที่ยากนักยากหนาก็คือ การฝึกตนนี่แหละ ซึ่งหมายถึงการฝึกจิต ฝึกให้มันมั่นคงอยู่ในคุณงามความดี ฝึกให้มันไม่วอกแวกหวั่นไหวไปกับสิ่งชั่วช้าเลวทราม ฝึกไม่ให้ตกอยู่ในอำนาจของกิเลส นี่แหละ ฝึกยากนักหนา
เพราะธรรมชาติของจิตเรานั้น มันมีปกติไหลลงต่ำเหมือนน้ำ ยินดีในสิ่งต่ำ ๆ อยู่ร่ำไป โดนกิเลสยั่วยุนิดหน่อยก็ไปแล้ว ไหลตามกิเลสไปแล้ว
เราต้องคอยประคับประคองมันอยู่ตลอดเวลา ไม่ให้มันไหลลงสู่ที่ต่ำ และต้องใช้หลักธรรมคำสอนแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาคอยยกมันให้สูงขึ้น ไม่เช่นนั้นแล้ว มันก็จะไหลลงสู่อารมณ์ต่ำ ๆ อยู่ร่ำไป
เมื่อเราหมั่นฝึกฝนอบรมจิตใจของตนเองด้วยหลักธรรมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่เสมอ หมั่นปฏิบัติสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานอยู่เสมอ สามารถประคับประคองจิตใจไม่ให้โน้มเอียงไปตามอำนาจของกิเลสได้ ย่อมได้ชื่อว่า เป็นผู้มีตนอันฝึกแล้ว
สรุปความว่า ชัยชนะทั้งหลายในโลกนี้ ไม่มีชัยชนะใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าชัยชนะที่มีเหนือตนเอง กล่าวคือการชนะตนนั่นเอง แต่การที่จะเอาชนะตนเองได้นั้น จำเป็นต้องฝึกตนเองอย่างหนักด้วยหลักธรรมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องใช้ความเพียรอย่างมาก เพราะการฝึกตนนี้เป็นสิ่งที่ยากนักยากหนา แต่เมื่อฝึกตนเองได้แล้ว ย่อมจะได้ชื่อว่าเป็นผู้มีชัยชนะเหนือตน ซึ่งเป็นชัยชนะที่ประเสริฐ เป็นชัยชนะที่พระพุทธเจ้าสรรเสริญ สมดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ยกขึ้นเป็นนิกเขปบท ณ เบื้องต้นว่า
อตฺตา หเว ชิตํ เสยฺโย
ชนะตนนั่นแหละเป็นดี
ซึ่งมีอรรถาธิบายดังได้บรรยายมาแล้ว ด้วยประการฉะนี้.
