อตฺตตฺถปญฺญา อสุจี มนุสฺสา “มนุษย์ผู้เห็นแก่ประโยชน์ตน เป็นคนไม่สะอาด”

อตฺตตฺถปญฺญา อสุจี มนุสฺสา.

[คำอ่าน : อัด-ตัด-ถะ-ปัน-ยา, อะ-สุ-จี, มะ-นุด-สา]

“มนุษย์ผู้เห็นแก่ประโยชน์ตน เป็นคนไม่สะอาด”

(ขุ.สุ. 25/339)

คำว่า “ประโยชน์” หมายถึง สิ่งดี ๆ ที่จะได้รับตอบแทนจากการกระทำ มี 2 ประเภท คือ ประโยชน์ตน และ ประโยชน์ส่วนรวม

โดยธรรมชาติของมนุษย์ เราอยู่ร่วมกันในสังคมหมู่มาก ไม่ได้อยู่คนเดียว เราต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ดังนั้น จึงควรสร้างประโยชน์ให้ตนเองด้วย สร้างประโยชน์ให้ส่วนรวมด้วย ควบคู่กันไป

บุคคลที่ทำอะไรโดยมุ่งแต่ประโยชน์ของตัวเองเป็นสำคัญเพียงอย่างเดียว โดยไม่สนว่าสังคมส่วนรวมจะเป็นอย่างไร ไม่สนใจว่าบุคคลอื่นจะเดือดร้อนหรือไม่อย่างไร ย่อมเป็นบุคคลที่สังคมไม่ยอมรับ

ตรงกันข้าม บุคคลที่มีจิตสาธารณะ ช่วยเหลืองานสังคม สร้างประโยชน์ให้กับส่วนรวม ย่อมจะได้ความรักความนับถือจากบุคคลอื่น ๆ ในสังคมเป็นอย่างดี และย่อมจะได้รับการช่วยเหลือจากบุคคลอื่น ๆ อย่างดีอีกด้วย

พุทธศาสนาสอนให้พุทธศาสนิกทั้งหลายรู้จักบำเพ็ญประโยชน์ทั้ง 2 ด้าน ให้ครบถ้วน คือ ทั้งประโยชน์ของตนก็ไม่ให้เสียหาย ประโยชน์ส่วนรวมก็ไม่ให้บกพร่อง จึงจะได้ชื่อว่าเป็นบุคคลผู้มีจิตใจใสสะอาดหมดจด เพราะไม่ถูกความเห็นแก่ตัวครอบงำ.