กระทู้ธรรม “อตฺตนา ว กตํ ปาปํ อตฺตนา สงฺกิลิสฺสติ”

อตฺตนา ว กตํ ปาปํ อตฺตนา สงฺกิลิสฺสติ
ตนทำบาปเอง ย่อมเศร้าหมองเอง
บัดนี้ จักได้อธิบายขยายเนื้อความแห่งกระทู้ธรรมภาษิตที่ได้ลิขิตไว้ ณ เบื้องต้น พอเป็นแนวทางแห่งการศึกษาและประพฤติปฏิบัติ สำหรับผู้สนใจในทางธรรมเป็นลำดับสืบต่อไป
บาป คือสภาวะที่ทำให้ตกต่ำ หรือตกไปในที่ต่ำ หมายถึงความชั่วร้ายเลวทรามต่าง ๆ อันได้แก่ การทำชั่วทางกาย ที่เรียกว่า กายทุจริต อย่างหนึ่ง การทำชั่วทางวาจา ที่เรียกว่า วจีทุจริต อย่างหนึ่ง การทำชั่วทางใจ ที่เรียกว่า มโนทุจริต อย่างหนึ่ง
พระพุทธศาสนาสอนไว้ว่า เราทำกรรมเช่นไร เราก็จะได้ผลเช่นนั้น และได้รับผลด้วยตัวเอง ไม่มีเลยที่คนหนึ่งทำกรรม แล้วผลกรรมนั้นจะไปตกอยู่ที่บุคคลอีกคนหนึ่ง ผู้ใดทำ ผลกรรมย่อมตกอยู่กับผู้นั้นแต่เพียงผู้เดียว
เหมือนกับเราเดินเหยียบโคลน โคลนนั้นจะไปติดเท้าบุคคลอื่นก็หาไม่ โคลนที่เราเหยียบย่อมติดอยู่ที่เท้าของเราแต่เพียงผู้เดียว
การทำบาปก็เช่นกัน ถ้าเราทำบาปอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นบาปทางกาย บาปทางวาจา หรือบาปทางใจก็แล้วแต่ ผลของบาปนั้นย่อมตกอยู่ที่เราแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ไม่มีใครสามารถมาแบ่งรับผลบาปร่วมกับเราได้
เมื่อบาปที่เราทำไว้มันให้ผล เราย่อมเศร้าหมองเมื่อได้รับผลของบาปด้วยตนเองอย่างแน่แท้
ดังนั้น จึงควรประคับประคองใจให้ดี อย่าให้เผลอไปทำบาปบ่อย ๆ อย่าให้ยินดีในการทำบาป เพราะเมื่อบาปให้ผล ย่อมไม่ให้ผลในทางที่ดีเป็นแน่แท้ ในทางกลับกัน เราควรทำบุญเอาไว้ให้มาก ๆ ย่อมจะดีกว่า เพราะบุญเป็นเหตุนำมาซึ่งความสุข การทำบุญ ย่อมดีกว่าการทำบาปเป็นไหน ๆ สมดังพุทธศาสนสุภาษิตที่มาใน สังยุตตนิกาย สคาถวรรค ว่า
ปุญฺญานิ กยิราถ สุขาวหานิ
ควรทำบุญซึ่งนำสุขมาให้
บุญนั้นเมื่อทำแล้วย่อมนำแต่ความสุขความเจริญมาให้ เพราะผลแห่งบุญคือความสุขความเจริญ ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
ดังนั้น สิ่งที่เราทั้งหลายที่มีโอกาสได้เกิดมาเป็นมนุษย์ควรทำอย่างยิ่งก็คือ การสั่งสมบุญ เราควรสั่งสมบุญให้มากขึ้น ๆ ตามลำดับ เพราะบุญเก่าที่เคยสร้างไว้ ย่อมจะหมดไปเรื่อย ๆ เราต้องสร้างบุญใหม่มาทดแทน
การที่เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์ มีสติปัญญา มีฐานะดี มีรูปร่างหน้าตาดี ล้วนแต่เป็นผลที่บุญอำนวยให้ทั้งสิ้น ดังนั้น บุญจึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำแท้
การทำบุญ ไม่ใช่สิ่งที่ทำยากเลย ท่านจำแนกการกระทำที่เป็นที่ตั้งแห่งบุญไว้ 10 ประการ เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ 10 คือ
- ทานมัย ทำบุญด้วยการให้ปันสิ่งของ
- สีลมัย ทำบุญด้วยการรักษาศีลหรือประพฤติดี
- ภาวนามัย ทำบุญด้วยการเจริญภาวนาคือฝึกอบรมจิตใจ
- อปจายนมัย ทำบุญด้วยการประพฤติอ่อนน้อม
- เวยยาวัจจมัย ทำบุญด้วยการช่วยขวนขวายรับใช้
- ปัตติทานมัย ทำบุญด้วยการเฉลี่ยส่วนแห่งความดีให้แก่ผู้อื่น
- ปัตตานุโมทนามัย ทำบุญด้วยการยินดีในความดีของผู้อื่น
- ธัมมัสสวนมัย ทำบุญด้วยการฟังธรรมศึกษาหาความรู้
- ธัมมเทสนามัย ทำบุญด้วยการสั่งสอนธรรมให้ความรู้
- ทิฏฐุชุกัมม์ ทำบุญด้วยการทำความเห็นให้ตรง
จะเห็นได้ว่า เราสามารถทำบุญได้หลายวิธี ผู้ใดสะดวกแบบใดก็ทำแบบนั้น หรือถ้าทำได้ทุกวิธีก็ยิ่งดีไปใหญ่ เพราะสุดท้ายแล้ว บุญทั้งหลายที่เราทำ จะนำความสุขความเจริญมาสู่ตัวเราเองอย่างแน่นอน
สรุปความว่า การทำบาปอกุศลทั้งหลาย เป็นการกระทำที่นำภัยใหญ่มาสู่ตัวเอง ภัยใหญ่ที่ว่านี้ก็คือผลของบาปนั่นเอง ซึ่งย่อมจะเป็นผลที่ไม่น่าปรารถนาอย่างแน่นอน เราทำบาปใด ๆ ไว้ จะต้องได้รับผลของบาปนั้น ๆ ด้วยตนเองอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้น เราทั้งหลายควรละเว้นการกระทำบาปเสียให้ได้ แล้วหันมาสร้างบุญกุศลอันเป็นเหตุนำความสุขมาให้ย่อมจะดีกว่า สมดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ยกขึ้นเป็นนิกเขปบท ณ เบื้องต้นว่า
อตฺตนา ว กตํ ปาปํ อตฺตนา สงฺกิลิสฺสติ
ตนทำบาปเอง ย่อมเศร้าหมองเอง
ซึ่งมีอรรถาธิบายดังได้บรรยายมาแล้ว ด้วยประการฉะนี้.
