กระทู้ธรรม “อตฺตนา อกตํ ปาปํ อตฺตนา ว วิสุชฺฌติ”

กระทู้ธรรม "อตฺตนา อกตํ ปาปํ อตฺตนา ว วิสุชฺฌติ"

อตฺตนา อกตํ ปาปํ อตฺตนา ว วิสุชฺฌติ

ตนไม่ทำบาปเอง ย่อมหมดจดเอง

บัดนี้ จักได้อธิบายขยายเนื้อความแห่งกระทู้ธรรมภาษิตที่ได้ลิขิตไว้ ณ เบื้องต้น พอเป็นแนวทางแห่งการศึกษาและประพฤติปฏิบัติ สำหรับผู้สนใจในทางธรรมเป็นลำดับสืบต่อไป

คำว่า “บาป” คือสิ่งที่ทำให้สภาพจิตของคนเราตกต่ำ คือสิ่งที่ทำแล้วสร้างความเดือดร้อนให้ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น ทั้งทางร่างกายและจิตใจ หมายเอาสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายอันเป็นการกระทำที่ผิดศีลธรรมทางศาสนา ผิดกฏหมายบ้านเมือง ผิดจารีตประเพณี

บาป เป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถทำแทนใครได้ ทุกคนที่ทำบาป ย่อมทำด้วยตนเองทั้งนั้น และผลของบาป ย่อมไม่มีใครสามารถรับแทนกันได้เช่นเดียวกัน ใครเป็นผู้ทำ ผลของบาปก็ย่อมตกอยู่กับผู้นั้นอย่างแน่นอน

ในเมื่อการทำบาปเป็นสิ่งที่ทำให้บุคคลผู้กระทำนั้นเศร้าหมองเกลื่อนกล่นไปด้วยผลของบาป เปรียบเหมือนบุคคลผู้ลุยลงไปในโคลน ย่อมแปดเปื้อนไปด้วยโคลนฉะนั้น

ตรงกันข้าม ผู้ไม่กระทำบาป ก็ย่อมเป็นผู้บริสุทธิ์หมดจดจากผลของบาป เปรียบเหมือนบุคคลผู้ที่ไม่ได้ลุยลงไปในโคลน ย่อมไม่มีโคลนแปดเปื้อนตัว ย่อมมีเนื้อตัวอันสะอาด ฉะนั้น

เป็นอันว่า เรื่องบุญหรือบาปนี้เป็นของเฉพาะตัว คือเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละบุคคล ใครทำเช่นใดย่อมได้เช่นนั้น สมดังพุทธศาสนสุภาษิตที่มาใน ขุททกนิกาย ธรรมบท ว่า

สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ

ความบริสุทธิ์และความไม่บริสุทธิ์ เป็นของเฉพาะตัว

ความบริสุทธิ์ ในที่นี้ หมายถึง ความบริสุทธิ์แห่งจิตใจ ความผุดผ่องแห่งจิตใจ คือภาวะที่จิตปราศจากอกุศล ปราศจากกิเลสตัณหาที่ครอบคลุมจิตใจ

ความไม่บริสุทธิ์ก็คือภาวะที่จิตถูกกิเลสครอบงำ ถูกบาปอกุศลปกคลุมจิตใจ ทำให้จิตเศร้าหมอง ไม่ผุดผ่อง เพราะตกอยู่ในอำนาจของสิ่งที่เป็นบาปอกุศล

และการที่จิตของใครจะบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์นั้น เป็นเรื่องเฉพาะตัว เพราะต่างคนก็ต่างมีจิตเป็นของตัวเอง เรามีหน้าที่ต้องชำระจิตใจของตัวเองให้บริสุทธิ์ คนอื่นจะมาทำให้ไม่ได้

เราต้องปฏิบัติขัดเกลาจิตใจของตนเองด้วยตนเอง จึงจะสามารถบริสุทธิ์ได้ด้วยตนเอง พูดให้เจ้าใจง่าย ๆ ก็คือ ใครทำคนนั้นได้ ใครไม่ทำ คนนั้นก็ไม่ได้ นั่นเอง

สรุปความว่า เรื่องของบาปและบุญนั้นเป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล คือใครทำคนนั้นก็ได้ ไม่มีใครสามารถรับผลของบุญหรือบาปแทนกันได้ สัตว์โลกทุกตัวตนย่อมมีกรรมอันเป็นบุญและบาปเป็นของของตนเอง และจะได้รับผลของกรรมนั้นด้วยตัวเองอย่างแน่นอน ดังนั้น การไม่ทำบาปเสียเลยย่อมเป็นการดีที่สุด จะได้เป็นผู้บริสุทธิ์หมดจดจากบาปอกุศลทั้งหลายด้วยตนเอง สมดังพุทธศาสนสุภาษิตที่ยกขึ้นเป็นนิกเขปบท ณ เบื้องต้นว่า

อตฺตนา อกตํ ปาปํ อตฺตนา ว วิสุชฺฌติ

ตนไม่ทำบาปเอง ย่อมหมดจดเอง

ซึ่งมีอรรถาธิบายดังได้บรรยายมาแล้ว ด้วยประการฉะนี้.



You may also like...