ปริโยทเปยฺย อตฺตานํ จิตฺตเกฺลเสหิ ปณฺฑิโต

ปริโยทเปยฺย อตฺตานํ จิตฺตเกฺลเสหิ ปณฺฑิโต.

[คำอ่าน : ปะ-ริ-โย-ทะ-ไป-ยะ, อัด-ตา-นัง, จิด-ตะ-กะ-เล-เส-หิ, ปัน-ทิ-โต]

“บัณฑิตพึงทำตนให้ผ่องแผ้วจากเครื่องเศร้าหมองจิต”

(สํ.มหา. 19/29, ขุ.ธ. 25/26)

บัณฑิต หมายถึง ผู้มีปัญญา เฉลียวฉลาด รอบรู้ในสิ่งที่เป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์ สามารถถือเอาสิ่งที่เป็นประโยชน์ ละทิ้งสิ่งที่ไร้ประโยชน์เสียได้

โดยธรรมดา ผู้มีปัญญาชาญฉลาด ย่อมจะประคับประคองตนให้พ้นจากอบายมุข คอยขัดเกลาจิตใจของตนให้สะอาดผ่องแผ้วจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองอยู่เสมอ

กิเลส แปลว่า เศร้าหมอง หรือสภาวะที่ทำให้จิตเศร้าหมอง ได้แก่ ความโลภ ความโกรธ ความหลง กิเลสเหล่านี้แหละที่จะทำให้จิตใจของเราเศร้าหมอง เมื่อจิตเศร้าหมองแล้ว ไม่ว่าจะพูด จะทำ จะคิด ก็ย่อมจะเป็นไปในทางที่ผิดจากทำนองคลองธรรมอยู่เสมอ

ดังนั้น พระพุทธศาสนาจึงสอนให้เราทั้งหลายหมั่นฝึกหัดขัดเกลาจิตใจตนเองให้ผ่องแผ้ว คือให้ปราศจากกิเลสอยู่เสมอ เมื่อจิตปราศจากกิเลสแล้ว ทั้งความคิด ทั้งการกระทำ ทั้งคำพูด ย่อมเป็นไปในทางที่เป็นบุญเป็นกุศล สร้างสรรค์ ก่อประโยชน์ ทั้งประโยชน์ตน ประโยชน์ส่วนรวม และประโยชน์อย่างยิ่งคือพระนิพพาน.